สำหรับวันนี้ทีมงานรีวิวหนังแอ๊คชั่นฝรั่งจะขอมาเอาใจแฟนหนังแนวดราม่ากับการมาแนะนำภาพยนตร์เรื่อง Stillwater มาถึงหนังดราม่าที่มีเนื้อหาหนักแน่นน่าสนใจไม่เบา กับภารกิจสู้เพื่อลูกของคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว ที่ดั้นด้นพยายามสืบหาข้อเท็จจริง เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของลูกสาวที่ต้องโทษอยู่ในเรือนจำต่างประเทศ

นี่คือประเด็นที่มาของหนังที่ชื่อว่า Stillwater หนังที่เคยเปิดตัวในเทศกาลหนังสุดยิ่งใหญ่อย่างเทศกาลหนังเมืองคานส์มาแล้ว สำหรับ เรื่องราวในหนังเรื่องนี้ จะสนุก และน่าติดตามแค่ไหน รีวิวจากทางเรามีคำตอบให้คุณอย่างแน่นอน และเพื่อนๆสามารถดูหนังออนไลน์เต็มเรื่อง ได้ทาง doonungvip.com เว็บหนังคุณภาพระดับวีไอพี ไปติดตามชมกันได้เลยค่ะ

ประเภท: ดราม่า อาชญากรรม

ผู้กำกับ: ทอม แม็คคาร์ธีย์

นำแสดงโดย: แมตต์ เดมอน, อาบีเกล เบรสลิน, กามีย์ กอตติน

ความยาว: 138 นาที

กำหนดฉายในไทย: 11 พฤศจิกายน 2021 ที่ TrueID

บิลที่เดินทางมาที่ฝรั่งเศสเพื่อช่วยเหลือลูกสาวของเขา อลิส ที่ถูกกลั่นแกล้งในคดีฆาตกรรม เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อบิลทำความรู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่งในฝรั่งเศส ได้รับความช่วยเหลือจากเธอ และในระหว่างนั้นความสัมพันธ์ของพวกเขาก็เริ่มต้นขึ้น

บิลมีความตั้งใจที่จะช่วยลูกสาวของเขาให้ได้รับความยุติธรรม แม้ว่าเขาจะต้องพบกับอุปสรรคและการต่อสู้กับปัญหาที่ซับซ้อนมากมาย และการไม่เข้าใจในภาษาฝรั่งเศส ภาพยนตร์เน้นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร และการเดินทางทางจิตวิทยาของบิลเพื่อค้นหาความจริง

หนังเริ่มต้นที่บิลเขาเคยทำงานให้บริษัทขุดเจาะน้ำมันแต่ตอนนี้โดนปลดออกเพราะคนดูและทิ้งงานจึงจำเป็นต้องหางานใหม่ หลังบิลไปสัมภาษณ์งานเขาก็แวะไปหาแม่ยายเพื่อจะไปเอาของที่หล่อนจะฝากให้เอดิสันหรือลูกสาวของเขาซึ่งพอมาถึงสนามบินเขาก็แวะซื้อเสื้อไปฝากลูกโดยขณะจ่ายเงินเขาก็หันไปเห็นสร้อยคอซึ่งสลักชื่อเมืองสติลวอเตอร์วางขายอยู่ด้วย

หลังเดินทางมาถึงฝรั่งเศสบิลก็ติดต่อห้องพักซึ่งพนักงานต้อนรับประจำเขาได้เพราะเคยมาพักที่นี่ขณะบิวนอนพักเขาก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะห้องข้างๆ เปิดเพลงเสียงดังเขาจึงออกไปขอร้องให้พวกเธอเบาเสียงลงแต่พวกเธอก็หัวเราะและบอกฟังไม่รู้เรื่องเพราะพูดอังกฤษไม่ได้ทำให้เขาเซ็งมากรุ่งเช้าบิลไปติดต่อขอเยี่ยมเอดิสันที่คุกซึ่งพอถามไถ่สาระทุกข์สุขดิบแล้วเธอก็ขอให้เขานั้นนำจดหมายไปมอบให้ทนายทำให้เขาสงสัย แต่เธอก็ไม่ได้บอกอะไรแถมย้ำว่ามันสำคัญเท่านั้น 

ด้านบิลเมื่อไปหาทนายแล้วไม่เจอเขาก็กลับมายังที่พักทำให้พบกับเด็กห้องข้างๆ ที่เขาห้องไม่ได้ เขาจึงพาเธอไปหาพนักงานต้อนรับ เพื่อขอกุญแจสำรองจนทั้งคู่ได้รู้จักกันโดยเธอมีชื่อว่ามายา ต่อมาบิลก็มาดักรอทนายที่ศาลเพื่อนำจดหมายของเอดิสันให้ซึ่งพอทนายได้อ่านก็ไม่สามารถทำตามคำขอของเธอได้ที่จะให้รื้อคดีใหม่เพราะศาลคงไม่ยินยอมจึงแนะนำให้เธอนั้นยอมรับโทษต่อไปเพราะน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด

ขณะที่บิลกำลังเก็บข้าวของ แม่ของมายาก็มาขอบคุณเรื่องที่ช่วยมายาไว้เมื่อวาน โดยพูดกับเขาเป็นภาษาอังกฤษเขาจึงแซวกลับว่าฟังไม่ออกทำให้เธออับอายที่เคยทำตัวแย่ๆ จึงขอโทษเขาและพร้อมจะช่วยเขาทุกเรื่องหากเขาต้องการเขาจึงนำจดหมายของเอดิสันไปให้เธอแปลจนได้รู้ว่ามีคนมาเล่าเรื่องชายที่ชื่ออาคิมเคยแทงผู้หญิงตายแล้วรอดคดีให้อาจารย์ฟังเอดิสันจึงเชื่อว่าคนที่ฆ่ารีน่าก็คือหมอนี่เลยอยากให้ทนายช่วยรื้อคดีเพราะไม่อยากติดคุกอีกแล้วนั้นเอง

เมื่อบิลมาเยี่ยมเอดิสันเธอดูกระวนกระวายเขาก็โกหกเธอว่าทนายจะช่วยรื้อคดีใหม่ให้ทำให้เธอดีใจมาก ต่อมาบิลได้ไปติดต่อนักสืบเอกชนแล้วก็เล่าเรื่องคดีของเอดิสันให้ฟังจนได้รู้ว่าเอดิสันเป็นแฟนกับรีน่าแล้ววันหนึ่งเกิดทะเลาะกันเอดิสันจึงออกไปคลับจนไปรู้จักกับชายที่ชื่ออาคิมแล้วหมอนี่ก็ขโมยกระเป๋าของเธอไป ซึ่งพอเธอกลับไปถึงห้องก็พบลีน่าเสียชีวิตไปแล้ว 

ซึ่งพอเล่าจบเขาก็พึ่งรู้ว่านักสืบไม่เข้าใจที่เขาพูดออกมาเลยทำให้เขาเซ็งมาก ด้านบิลเขาได้ไปติดต่ออดีตตำรวจเพื่อให้ช่วยตามหาชายที่ชื่ออาคิมเพื่อเอาดีเอ็นเอมาตรวจว่าตรงกับดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุหรือไม่ เพื่อให้ลูกจะได้พ้นมลทินแต่ค่าใช้จ่ายก็สูงเกินไปเขาจึงไม่มีปัญญาพอจะจ่ายได้ เมื่อกลับมาถึงที่พักบิลก็พบแม่บ้านเขามาทำความสะอาดที่ห้องข้างๆ เพราะครอบครัวของมายาได้ย้ายออกไปแล้ว ซึ่งมายาก็ได้ทิ้งจดหมายเอาไว้ให้กับเขาด้วย 

ต่อมาบิลก็ไปหาอาจารย์ที่เอดิสันเคยทำงานด้วย ซึ่งอาจารย์ก็รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้เตือนเอดิสันเรื่องลีน่าจนทำให้เกิดเรื่องขึ้นจากนั้นก็มอบเบอร์โทรของเด็กที่น่าจะรู้เรื่องของอาคิมให้เขาเพื่อให้ไปติดต่อคุยกันเองพร้อมทั้งให้เขาหาคนแปลไปด้วย เพราะหล่อนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ด้านบิลเขาหาซื้อหุ่นยนตร์และก็ไปถามที่อยู่ของมายากับพนักงานต้อนรับจากนั้นก็ไปหาเธอเพื่อขอให้เวอร์จีเนียหรือแม่ของเธอช่วยโทรนัดเด็กสาวซึ่งพอโทรนัดให้แล้ว และรู้ว่าเขายังไม่มีคนช่วยแปลเวอร์จีเนียก็อาสาเป็นล่ามให้ 

ระหว่างเดินทางเมื่อบิลได้รู้ว่าเวอร์จีเนียเป็นนักแสดงละครเวทีเขาก็บอกความรู้สึกของตัวเองที่ไม่เคยคิดอยากไปดู เพราะไม่รู้จะไปทำไมทำให้เธอถึงกับอึ้งไปทันที เมื่อเวอร์จีเนียช่วยบิลสอบถามเรื่องราวกับเด็กสาวสุดท้ายก็ได้รู้ว่าคนชื่ออาคิมมีตัวตนอยู่จริง แต่เพื่อที่มาด้วยกันก็ไม่อยากให้เด็กสาวพูดอะไรไปมากกว่านี้เพราะกลัวจะเดือดร้อนจึงพาหล่อนกลับไปทำให้บิลเครียดมากเพราะอยากรู้จักหน้าตาของหมอนั้น 

เมื่อบิลไปเยี่ยมเอดิสันเธอก็ขอให้เขาอยู่ต่ออีกหน่อยเพื่อจะได้ช่วยประสานงานกับทนายเรื่องคดีของเธอเขาจึงตบปากรับคำกับลูกของเขาว่าจะช่วย ด้านบิลก็ตอบแทนความช่วยเหลือของเวอร์จีเนียโดยการไปซ่อมอุปกรณ์ในห้องน้ำ ซึ่งพอซ่อมเสร็จเธอก็ให้เขามาดูรูปภาพที่เธอของเธอไปขอแอดเฟรนของเด็กสาวเอาไว้ ซึ่งก็มีรูปปราตี้อยู่เพียบจึงน่าจะมีรูปของอาคิมอยู่ในนั้นด้วย เลยอยากให้เขาเอาไปให้เอดิสันดู จะได้รู้ว่าอาคิมคือคนไหนแต่เขาก็ไม่ยอม สุดท้ายจึงต้องลองไปถามกับเจ้าของคลับแทน

ด้านเวอร์จีเนียกับบิลเมื่อได้เจอเจ้าของคลับบิลก็อยากให้เจ้าของคลับช่วยบอกว่าอาคิมคือคนไหนแต่เจ้าของคลับก็จำไม่ได้ และด้วยความเกลียดเด็กพวกนี้เพราะสร้างแต่ปัญหาแถมยังไม่ใช่คนฝรั่งเศสจริงๆ จึงถามว่าอยากจะให้คนไหนเข้าคุก เพราะจะชี้คนนั้นให้พอเวอร์จีเนียได้ยินก็โมโห จึงพาบิลกลับทำให้บิลมึนงงจนทะเลาะกับเธอและยิ่งได้ยินที่บิลบอกไม่สนใจว่าใครจะต้องเข้าคุกขอให้ลูกของตัวเองออกมาได้ก็พอเธอก็สุดจะทน จึงไม่ยอมช่วยเขาอีกต่อไป 

ด้านบิลที่ไม่รู้จะสืบต่อยังไงจึงนำรูปไปให้เอดิสันดูจนเธอพบรูปของอาคิมพอเขารูปจึงเดินทางไปย่านที่เด็กสาวบอกเพื่อไปตามหาอาคิมแต่ก็เหมือนไม่มีใครรู้จักหมอนี่เลยจนกระทั่งกลุ่มเด็กแว้นเขามาทักและหาเรื่องเขา เขาจึงต่อสู้และป้องกันตัวแต่ด้วยที่พวกมันมีมากกว่าเขาจึงโดนรุมกระทืบทันใดนั้นชายที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าก็เข้ามาห้ามพวกมัน แต่พอเห็นรูปของอาคิมก็หันไปถามกับมอเตอร์ไซต์ที่พึ่งขี่มาถึงว่ารู้จักกันหรอทำให้บิลได้เห็นกับคนที่ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซต์คันนั้นก็คืออาทิมนั้นเอง ด้านอาคิมเหมือนไม่รู้จักบิล พรรคพวกเลยช่วยกันพาเขาเอาไปทิ้งไว้ที่ปั้มน้ำมันก่อนจะขับรถหลบหนี 

เวอร์จีเนียเธอรีบมาหาบิลที่โรงพยาบาลเขาจึงเอ่ยขอโทษที่ทำให้เธอต้องเดือดร้อนเพราะไม่รู้จักกันเลยนอกจากเธอ เธอที่เห็นสภาพของเขาจึงพาเขากลับมาพักที่บ้าน เมื่อบิลไปเยี่ยมเอดิสัน เธอก็เห็นสภาพของเขาและเข่นถามกับเขาจนได้รู้ว่าเขาโกหกเธอมาโดยตลอดเพราะทนายไม่ยอมช่วยเขาจึงไปตามหาอาคิมเองจนถูกทำร้ายเธอจึงโกรธมากที่ทำให้หมอนั้นไหวตัวและอาจหนีไปแล้ว และก็ไม่อยากเห็นหรือคุยกับเขาอีกทำให้บิลเสียใจมาก 

4 เดือนต่อมาบิลได้หางานก่อสร้างทำอยู่ในฝรั่งเศสซึ่งพอทำงานเสร็จเขาก็ไปรับมายากลับบ้านและก็ไปฝึกภาษาด้วยกันที่ห้องเก็บเครื่องมือจากนั้นก็ไปทำอาหารให้เธอทาน เนื่องจากตอนนี้เขากลายมาเป็นรูมเมทของเธอกับแม่แล้วซึ่งมายาก็ดูจะชอบและสนิทสนมกับเขามากด้วยต่อมาทนายได้เรียกบิลมาพบเพราะเอดิสันจะได้รับการปล่อยตัวให้ออกมาใช้ชีวิตภายนอกเรือนจำได้ 1 วัน เนื่องจากศาลต้องการให้ผู้ต้องขังได้ปรับตัวแล้วด้วยที่เอดิสันไม่มีใคร จึงขอให้เป็นหน้าที่เขาแม้จะรู้ว่าเธอไม่อยากพบเขาก็ตาม และเมื่อบิลมารับเอดิสันก็ทำให้เขารู้ว่าเธอยังโกรธเขาอยู่แต่ก็ยอมไปกับเอดิสัน เธอเดินไปซื้อดอกไม้เพื่อไปเคารพหลุมศพของลีน่าจากนั้นก็ไปว่ายน้ำในเขตหวงห้ามก่อนจะขึ้นมานั่งพักแล้วคุยกับพ่อของเธอ 

ก่อนที่เขาจะได้รู้ว่าเป็นเลสเบี้ยนจริงตามที่นักข่าวเขียน ซึ่งเธอก็เล่าให้ฟังว่าถึงลีน่าไปนอนกับคนอื่นมากมายแต่เธอก็ยังรัก เมื่อบิลพาเอดิสันมาที่บ้านของเวอร์จีเนีย เธอก็ดูเข้ากับมายาได้เป็นอย่างดี แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ดีขึ้นเมื่อเอดิสันพยายามจะฆ่าตัวตายแต่ยังดีที่ช่วยเอาไว้ได้ แล้วความสัมพันธุ์ระหว่างบิลกับเวอร์จีเนียก็เริ่มพัฒนาขึ้น และดูเหมือนว่ามายาก็พอใจที่เป็นแบบนั้นเหมือนกัน จนเมื่อวันหนึ่งบิลเจอกับอาคิมโดยบังเอิญแล้วเขาก็ลักพาตัวอาคิมมาซ่อนไว้ที่ห้องเครื่องมือเพื่อรอผลตรวจดีเอ็นเอ เมื่ออาคิมได้คุยกับบิลว่าเขาถูกจ้างวานด้วยเอดิสัน 

ตอนแรกเขาก็ไม่เชื่อจนอาคิมพูดถึงเรื่องสร้อยสติลเวอร์เทอร์ก็ทำให้เขาอึ้งไป และผ่านไปมีตำรวจจะมาตรวจสอบห้องใต้ดินเพราะว่าอาคิมหายตัวไปนั้นเลยเป็นสาเหตุทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเวอร์จีเนียแย่ลง แล้วเมื่อบิลได้ข่าวจากทนายว่าเอดิสันจะถูกปล่อยตัวเพราะว่าได้หลักฐานใหม่แต่บิลกลับไม่ได้ดีใจอยากที่คิดทนายเลยสงสัยว่าเป็นเพราะอะไร 

และเมื่อเธอถูกปล่อยตัวบิลและเอดิสันก็กลับไปที่สหรัฐ แล้วดูเหมือนบิลจะไม่ได้ดีใจอย่างที่คิดเอสันจึงได้เข้ามาถามบิลว่าเป็นอะไร จนบิลได้ถามเธอเรื่องสร้อย แล้วเธอก็สารภาพว่าเพราะลีน่านอกใจเอดิสันเขาเลยได้มอบสร้อยให้อาคิมแล้วนำตัวหล่อนออกไปและด้วยการที่ไม่เข้าใจภาษาอาคิมจึงเข้าใจว่าให้ไปฆ่าลีน่า บิลเห็นเอดิสันยังเสียใจจึงได้เข้าไปปลอบเธอและในเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของบิลที่พยายามจะช่วยลูกสาวออกมาจากคุกนั้นเอง

หนังหลายเรื่องที่ถูกกำกับโดยผู้กำกับที่เคยได้รับรางวัลออสการ์มันไม่สามารถพิสูจน์คุณภาพที่เทียบเท่ากันได้ เพราะในกรณีของเรื่อง stillwater พอได้ลองดูแล้วก็ตกใจเลยว่านี่คือหนังแนวไหนและใครเป็นผู้กำกับ ทุกอย่างดูเข้มข้นมากๆ และเมื่อดูหนังเป็นเวลาเกือบสองชั่วโมง เพียงคำถามเดียวที่เกิดขึ้นในจิตใจคือคำว่า ผู้ที่ได้รับเล่นบทเอกในเรื่องนี้เป็นดาราระดับซูเปอร์สตาร์หรือไม่ คือคุ้นเคยคลับคล้ายคลับคล้ายคลาว่าเป็นแมตต์ เดมอน ใช่ไหม และสุดท้ายก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ

เหตุผลที่แสดงให้เห็นว่าบิลตัวละครเอกที่แมตต์ เดมอน รับบทนั้นมีลักษณะเฉพาะเจาะจง เมื่อเขาสวมหมวกแก๊ปตลอดทั้งเรื่อง เป็นการทำให้ดูเหมือนกับตัวละครเบอร์ต้นของหนังฮอลลีวูด เพื่อให้ผู้ชมไม่ลืมแม้แต่เสียงพระเอก หากไม่มีแมตต์ เดมอน มารับบทบาทในบทนี้ หนังน่าจะดูเหมือนร้านขายหมวกแก๊ปเพียงร้านเดียว และหากไม่ได้ฝีมือกำกับของผู้กำกับทอม แมคคาธี ที่เคยรับรางวัลออสการ์จากงาน Spotlight มาช่วยในหนังนี้ อาจจะทำให้ระยะเวลาของหนังที่ยาวนานกว่าสองชั่วโมงและจะให้ดูอึดอัด และเข้มข้นกว่านี้แม้แต่นัยน์เดียว

ไม่ใช่ว่าหนังไม่ดีนะ แต่เรื่องราวที่ถูกนำเสนอรวมถึงความรู้สึกที่สะท้อนในบทบาทของพ่อที่พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยลูกสาวที่ถูกจับตัวไว้ในเมืองมาร์กเซย์ ประเทศฝรั่งเศส ไปพร้อมกับความหวังที่จะต้องรอดพ้นจากการที่ถูกกล่าวหาว่าฆ่าคนอื่น ถูกมันได้ถูกนำเสนอออกมาอย่างดีเยี่ยมและชวนให้ตั้งตาตามไปด้วยกับความรู้สึกในบางครั้ง

การปูเนื้อเรื่องได้ดีที่ต้องการที่จะเล่าให้เห็นถึงความเป็นมาและเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ใช่แค่การแสดงแมตต์ เดมอน ดังที่กล่าวไปแล้ว ถ้าเขาไม่รับบทนี้ในเรื่อง ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ได้น่าติดตามขนาดนั้น โดยการแสดงเขาได้ส่งเสริมฉากที่มีช่องว่างอยู่ หนังสามารถแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างบิลที่เป็นพ่อกับลูกสาวอย่างมีความหมาย ทว่าความสัมพันธ์ระหว่าง เพื่อนใหม่ แม่ของเด็กน้อยและลูกน้อยก็มีนำเสนอออกมาได้อย่างดีในแง่ของความผูกพัน

ตรงจุดนี้ในหนังทำให้เราเชื่อใจได้อย่างมั่นใจว่าบิล และ มายา เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ต่างเปิดใจที่จะยอมรับ
ซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ ความย้อนแย้งที่ถูกแทรกไว้ในเรื่องนี้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อและลูก อาจจะเป็นเจตนาอันเนื่องมาจากผู้กำกับและผู้เขียนบท ซึ่งสร้างความหลงใหลและนึกถึงมุมมองที่ลึกซึ้ง ผลที่ได้คือ นักวิจารณ์หลายคนมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เก่งสำหรับการสื่อสารและมีความเรียบง่าย ที่สำคัญยังเพิ่มความพิเศษให้กับเรื่องนี้อยู่ด้วย หากทุกคนอยากรู้สึกดีๆ กับมัน ก็ควรลองชมเรื่องนี้ ดูแน่นอนว่าท่านจะไม่เสียเวลาไปกับการรับชมในครั้งนี้เลย

stillwater เป็นภาพยนตร์ที่เน้นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบิลและสาวน้อยลูกสาวของเวอร์จิน

คามิลล์ คอตติน เรื่องเริ่มต้นด้วยการที่เวอร์จินตั้งใจช่วยเหลือแปลจดหมายของแอลลิสันที่ถูกมอบให้บิล เมื่อเรื่องเข้าสู่ในช่วงคลายเรื่อง เขาเชื่อมั่นในทั้งเวอร์จินและลูกสาวน้อยของเธอ จะกลับมาอยู่กับพวกเขาในสติลวอเตอร์ ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในที่เรื่องไม่ได้เน้นที่โทษจำคุกของแอลลิสัน แต่เน้นไปที่ความสัมพันธ์แทนที่เกิดขึ้นระหว่างพ่อกับบิล ที่กำลังเติบโตและไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เป็นตัวละครที่ได้พัฒนามากขึ้นในเรื่องนี้ นอกจากเรื่องของเอดิสันที่ควรจะเป็นแกนกลางของเรื่องนั้นภาคต่อนี้น่าจะไม่ได้แย่นักถ้ารู้สึกว่ามันน่าเชื่อถือ

แต่อย่างไรก็ดี มันก็ยังขาดความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่น ฉะนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเวอร์จิน และ บิล จะต้องสงสัยไป ต้องบอกว่าวิธีที่เขาผูกมัดกับลูกสาวของเธอกลายเป็นสิ่งที่น่าเชื่อถือมากขึ้น 

และภาพที่อบอุ่นบางฉากยกระดับภาพยนตร์ในบางช่วง ก็ทำให้ตัวเรื่องดูน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่า บิลจะพยายามเป็นพ่อที่ดีอีกครั้งหรือไม่ การสัมพันธ์ที่ซับซ้อนอยากจะพัฒนากับเอดิสัน ฉากบางฉากที่เน้นความรู้สึกนี้นั้นดีและชอบมาก

แมตต์ เดมอนเคยมีภาพยนตร์หลายเรื่องที่สร้างความประทับใจ แต่บทบาทนี้ไม่ได้เป็นบทบาทที่ดีที่สุดของเขาอย่างแน่นอน คงเป็นเพราะบางส่วนของภาพยนตร์ขาดวการลงรายละเอียดภูมิหลังสำหรับตัวละครของเขา บิลอาจจะดูน่าเบื่อและไม่มีอะไรมากสำหรับเขา ซึ่งนั่นไม่ดีเท่าไหร่เมื่อคุณมีความตั้งใจที่จะติดตามเรื่องราวของตัวในช่วงเวลาที่วุ่นวายในชีวิตของเขา ภาพยนตร์เรื่องนี้เหมือนว่าเขายังไม่ได้แสดงอะไรออกมาได้อย่างเต็มที่ และไม่แสดงออกอารมณ์ได้เต็มที่ด้วย มันเป็นการแสดงที่แปลกและไม่น่าจะมีใครจดจำได้ว่าเป็นหนึ่งในการแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเดมอน

ด้วยระยะเวลา 2 ชั่วโมง 19 นาที คุณจะคาดหวังว่าจะมีฉากที่เน้นไปที่เอดิสันและเรื่องราวที่เก็บไว้มากที่สุด เนื่องจากเราใช้เวลามากมายในการพยายามเติมช่องว่างและค้นหาว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นที่นี่ แต่เอดิสันไม่ได้อธิบายออกมาได้อย่างชัดเจน มันจึงทำให้เรายากที่จะเข้าใจเธอ ซึ่งทำให้เนื้อเรื่องค่อนข้างสับสน เมื่อเธอปรากฏตัวบนหน้าจอ การแสดงของเธอไม่ได้แสดงออกมาว่าไม่พอใจเท่าที่ควร เพราะเราเห็นชัดว่าพ่อของเธอเต็มใจที่จะเสี่ยงทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอ

จังหวะของหนังค่อนข้างช้า และอาจจะเริ่มดูน่าเบื่อแล้ว เนื่องจากมีฉากมากมายที่ไม่จำเป็นอยู่ และอาจถูกแทนที่ด้วยฉากที่ให้ข้อมูลบางส่วนแก่ผู้ชมจริงๆ น่าผิดหวังยิ่งกว่าที่อแมนด้าไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในทีมที่ปรึกษาของภาพยนตร์เรื่องนี้ เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่ามันอิงจากประสบการณ์ของเธอเองและคดีที่น่าอับอายของเธอซึ่งได้รับการดัดแปลงมาหลายครั้งแล้ว ผู้ที่มองหาละครอาชญากรรมที่กระตุ้นความคิดจะไม่พบสิ่งนั้นที่นี่ เนื่องจากไม่มีอะไรจะท้าทายผู้ชมเลย

โดยสรุปภาพรวมของหนัง นั้นเป็นหนังดราม่าที่มีเนื้อหาที่เข้มข้น ถูกสร้างขึ้นในสไตล์ที่คล้ายกับ spotlight แต่ไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้อย่างตรงไปตรงมา แม้ว่าหนังเรื่องนี้ยังไม่สามารถขึ้นชั้นเทียบกับผลงานยอดเยี่ยมรางวัลออสการ์ได้ เนื้อหาและการแสดงของนักแสดงก็ยังคงมีคุณภาพ อย่างไรก็ดี ความต่างในบทและวิธีการเล่าเรื่องทำให้หนังเรื่องนี้ดูเป็นแบบธรรมดาน้อยลง แม้ว่าจะไม่ได้เป็นหนังที่จะยึดติดในความจำมากนัก แต่โดยรวมแล้วก็ยังคงเป็นหนังดราม่าที่มีความสนุกและน่าติดตามตามเนื้อเรื่องได้

เป็นหนังที่ค่อนข้างดีโดยรวม ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องบางส่วนอาจจะดูน่าเบื่อบ้างไปนิดหน่อย แต่การแสดงของนักแสดงดีมากๆ โดยเฉพาะการแสดงของเดม่อนที่เป็นสมบทบาทมากๆ หนังมีความยาวประมาณ 2 ชั่วโมง 19 นาที หากไม่ใช่แฟนหนังแนวนี้อาจจะรู้สึกเบื่อได้บ้าง แต่ผู้กำกับยังคงรักษาความสมดุลของการเล่าเรื่องได้ดี โดยเฉพาะในส่วนที่เอลลิสันกลับสู่เมืองสติลวอเตอร์นั้น และถ้าหากใครตัดสินใจที่จะดูเรื่องนี้แล้วละก็จะไม่ผิดหวังแน่นอน

อ่านรีวิวกันจบแล้ว ทีมงานเราขอแนะนำรีวิว Marry My Dead Body (2023) แต่งงานกับผี หนังผีแนวใหม่ที่คุณต้องรีบชม ตามไปอ่านรีวิวของเราก่อนได้เลยค่ะ