รีวิวหนังThe Unbearable Weight of MassiveTalent

 

 

มาเจอกันอีกแล้วนะคับท่านผู้ชมที่น่ารักทุกท่าน วันนี้ผมจะมา รีวิวหนังสุดมันเรื่อง The Unbearable Weight of Massive Talent ข้านี่แหละนิคฟักกลิ้งเคจ หลังรอคอยกันมาเป็นเดือนที่จะได้พบกับหนังเรื่องใหม่ที่เขาว่ามีพล็อตน่าสนใจ เพราะตัวนำเขาเอาชีวิตตัวเองมาล้อเลียน เล่าเรื่องดาราที่ตกอับจนต้องรับงานเอน ไม่พอยังล้อเลียนหนังตัวเองอย่างมันมือ มีสองดาราตัวพ่อร่วมประชันฝีมือ วันนี้ สิ่งที่รอคอยได้เดินทางมาถึงแล้ว ‘The Unbearable Weight of Massive Talent’ ชื่อไทยกวนๆ ว่า ข้านี่แหละ นิค ‘ฟักกลิ้ง’ เคจ หนังที่จ่อเข้าฉาย 19 พฤษภานี้แล้ว ดูหนังฟรี

 

รีวิวหนังThe Unbearable Weight of MassiveTalent

 

มันคือผลงานการโปรดิวเซอร์ของตัว Nicolas Cage เอง โดยส่งต่อให้ Tom Gormican เป็นมือเขียนบท (ร่วมกับ Kevin Etten) และคนกำกับที่เคยมีผลงานกำกับชิ้นแรกอย่าง ‘That Awkward Moment’ ที่เขาก็เขียนบทเองด้วย แถมได้เสียงตอบรับอย่างดีในเว็บมะเขือเน่า เอาเป็นเมื่อหนังเข้ามาฉายถึงในบ้าน และ เป็นเรื่องที่ตั้งตารอมานาน

ได้เวลามาพิสูจน์ผลงานที่ใคร ๆ ก็ว่าเป็นการคืนฟอร์มอย่างสมศักดิ์ศรีของคุณป๋า “นิโคลัส เคจ” ที่กลับมายืนหยัดอยู่บนเส้นทางหนังสายกระแสอีกครั้ง กับหนังเรื่องล่าสุดของเขา “The Unbearable Weight of Massive Talent” ที่ตั้งชื่อไทยเอาไว้คูล ๆ ว่า “ข้านี่แหละ นิค ‘ฟักกิ้ง’ เคจ” ออกมาเป็นหนังตลกที่แสนคมคาย และ เสียดสีความเป็นตัวของเขาค่อนข้างสูง ประหนึ่งเป็นการสร้างหนังชีวประวัติของเขาโดยย่อมเรื่องหนึ่งก็ว่าได้ แล้วมันจะฮาแบบที่ฝรั่งอวยกันหรือเปล่านะ ดูหนังออนไลน์

 

รีวิวหนังThe Unbearable Weight of MassiveTalent

 

รีวิวหนังThe Unbearable Weight of MassiveTalent เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ

 

เรื่องย่อ: Nicolas Cage (นิโคลัส เคจ) ดาราฮอลลีวูดรุ่นใหญ่ตกอับ ที่แม้ว่าในอดีตจะเคยฝากผลงานอันยิ่งใหญ่เอาไว้มากมายทั้ง Con Air และ Face/Off แต่เขากลับต้องมาเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบากไม่มีใครจ้างงาน จนต้องจำใจยอมรับข้อเสนอที่ไม่น่าไว้วางใจให้เดินทางไปร่วมงานวันเกิดของ ฮาวี มหาเศรษฐีชาวเม็กซิกันแลกกับเงินหนึ่งล้านดอลลาร์สหรัฐ และเขาก็พบว่ามหาเศรษฐีคนนี้เป็นแฟนพันธุ์แท้ของตัวเขาเอง

แต่เรื่องราวสุดวายป่วงยังไม่จบลงแค่นี้ เมื่อเคจพบว่าภายใต้หน้ากากแฟนพันธุ์แท้ ‘นิค เคจ’ มหาเศรษฐีคนนี้คือ เจ้าพ่อค้ายารายใหญ่ที่เป็นที่ต้องการตัวของ CIA นั่นทำให้เขาถูกหมายหัวในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิด เคจต้องตกกระไดพลอยโจนสวมบทบาทในอดีตที่เคยสร้างชื่อให้กับเขาเพื่อหาทางเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ไปให้ได้

หนังมันว่าถึง นิค เคจ (Nicolas Cage จากหนังเรื่อง ‘National Treasure’, ‘Snowden’ และ ‘Pig’) เขาคือดาราชายผู้ที่เคยโด่งดังเป็นเบอร์ใหญ่ของวงการ แต่ปัจจุบันคือคนที่วิ่งวุ่นหางานแสดง คิดแต่เรื่องหนังและงานอยู่ทุกลมหายใจ จนมันกลายเป็นปัญหาครอบครัว แต่แล้วเขาก็ได้ยินงานชิ้นใหม่จากปากผู้จัดการส่วนตัว (Neil Patrick Harris) ไม่ใช่งานแสดง แต่เป็นการเดินทางไปร่วมงานวันเกิดของคนรวยที่เป็นแฟนตัวยงของเขาแลกกับเงินค่าจ้าง 1 ล้านเหรียญสหรัฐ

เมื่อนิค เคจ ได้รับการติดต่อจาก CIA อย่างวีเวียน (Tiffany Haddish จากหนัง ‘Like a Boss’ และ ‘Girls Trip’ ) แจ้งกับเขาว่า แฟนคลับมหาเศรษฐีชาวเม็กซิกันคนนี้เป็นตัวอันตราย จึงถูกมอบหมายให้เข้าไปสอดแนม เขาเลยต้องกลายเป็นคนรับสองจ็อบ จากงานเอน กลายเป็นภารกิจสายลับไปซะงั้น ดูหนังฟรี

 

 

นิโคลัส เคจ แสดงเป็น นิค เคจ ที่มีปัญหาทางด้านการเงินจะด้วยนิสัยส่วนตัวหรืออะไรก็ตามแต่ ทำให้วันๆ เขาคิดถึงแต่เรื่องหนังและการหาบทเรื่องใหม่เพื่อมาชดใช้หนี้ วันๆ เขาแต่คุยโทรศัพท์ เดินทางไปคุยกับผู้กำกับเพื่อตามตื๊อ จนแทบไม่เหลือเวลาให้กับครอบครัว อันนี้ก็ใกล้เคียงกับตัวจริงพอสมควรเลย

มีอยู่ช่วงหนึ่งที่พี่แกรับงานแสดงหนังเป็นว่าเล่น รับแบบไม่สนว่าจะบทจะแย่แค่ไหน โปรดักชัน/ทุนจะน้อยหรือไม่ จนคนดูได้แต่ส่ายหัว แต่ก็ดูเหมือนแกจะผ่านช่วงนั้นมาได้แล้ว หลังๆ ก็เลยเห็นว่า งานของแกมีทิศทางที่ดี มีคุณภาพขึ้นมากเลย

อย่างที่รู้กันว่า ในเรื่องนี้ ฮาวี (ที่แสดงโดย เพโดร ปาสคาล นั่นแหละ) เขาถูก CIA ตั้งข้อสงสัยว่าจะเป็นตัวอันตราย จนต้องใช้นักแสดงที่กำลังรับงานเอนให้รับจ็อบสองแฝงตัวเป็นสายลับจำเป็น บังเอิญว่าเขาเป็นนักแสดงที่มีปัญหาครอบครัว บทหนังนำภารกิจใหม่ของเขามาผูกกับปัญหาครอบครัวได้อย่างลงตัว กลายเป็นความกาวที่สอดรับกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ในหนังเรื่องนี้ นอกจากจะเคจล้อชีวิตตัวเองแล้ว ก็ยังบอกเล่าถึงเรื่องราวในวงการหนังอีกด้วย ช่วงชีวิตหนึ่งของนักแสดงที่อาจสร้างหนี้สร้างสิน จนต้องวิ่งวุ่นหางาน ถึงขั้นต้องรับงานนอกที่นำพาให้ดาราได้มาเจอกับติ่งของตน แถมติ่งก็ยังเสนอบทหนังที่เขียนเองให้อีกต่างหาก หนังเลยเล่าล้อขนบวงการหนัง เรื่องบทที่มีตัวละครเป็นศูนย์กลาง เรียกว่าไปทุกทางแล้วเท่าที่จะไปได้ ไม่พอแค่นั้น เมื่อมันยังกลายเป็นหนังสายลับแบบป่วนๆ ที่คาดเดากันไม่ถูกว่าจะเจออะไรแบบไหนโดยเฉพาะกับตัวละครอย่างฮาวี หลายอย่างในนั้นคล้ายการจับแพะชนแกะที่ลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ ดูหนังออนไลน์

 

 

ความรู้สึกหลังดูหนังThe Unbearable Weight of Massive Talent 

 

โดยเรื่องนี้มีจุดเริ่มต้นจาก ‘บทหนัง’ ที่ถูกจับตามองและยังไม่ถูกนำมาสร้างของฮอลลีวูด อาจด้วยเหตุผลของความยากในการผลิตหรือปัญหาอื่น ๆ ที่คนในวงการรู้จักดีว่าเป็นกลุ่ม ‘แบล็กลิสต์’ ซึ่งในปี 2019 โปรเจกต์หนังของผู้กำกับ ทอม กอร์ไมแคน (Tom Gormican) ที่เคยมีผลงานหนังโรแมนติกคอมเมดี้ 3 เพื่อนซี้ไม่อยากโสดเรื่อง ‘That Awkward Moment’ (2014) และมือเขียนบท เควิน เอตเทน (Kevin Etten) เรื่องนี้ก็ได้รับการชื่นชมให้เป็นแบล็กลิสต์ของปีนั้นเช่นกัน

พล็อตของหนังมีความสร้างสรรค์สูงและมีหน้าหนังที่ขายได้อย่างแน่นอนด้วยทุนสร้างที่ไม่ต้องสูงนักเพราะเน้นชูความคลั่งไคล้ในดาราไอคอนของหนังยุคหนึ่งอย่างเคจที่มีฐานแฟนคลับมาหลายรุ่น (เพราะแกมีหนังออกมาตลอด) โดยให้นักแสดงได้เล่นเป็นตัวละครสมมติที่เป็นตัวเองอีกที ซึ่งปัญหาเดียวคือถ้าเคจไม่รับเล่นหนังเรื่องนี้ก็จะไม่มีทางเกิดขึ้นมาได้ และทำให้บทหนังเรื่องนี้ค้างเติ่งไม่ถูกสร้างมาหลายปี ซึ่งสำหรับเคจด้วยเนื้อหาที่พูดถึงการเป็นตัวเขาเองมันก็สุ่มเสี่ยงที่หากไปอยู่ในมือผู้สร้างที่ไม่เคารพเขา ก็อาจทำให้การแสดงหนังเรื่องที่ 100 ของเขานั้นเป็นตราบาปไปชั่วชีวิตเลยก็ได้ รีวิวหนังออนไลน์

 

 

นักแสดงที่ชีวิตเริ่มจะตกอับ พยายามหาเงินจนไม่มีเวลาให้กับครอบครัว ทั้งเมียทั้งลูกต่างรู้สึกละเหี่ยใจกับผู้ชายคนนี้ โดยเฉพาะลูกสาว แอ็ดดี้ (ที่แสดงโดย Lily Mo Sheen หรือ Lily Sheen) ดูท่าเขาคงเครียดหนัก ถึงขนาดสร้างตัวตนของเขาอีกคนมาถกเถียงให้เราได้ฮา แต่ถ้ามองในมุมดราม่า

มันคือความเจ็บปวดของลูกผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่อาจเป็นพ่อให้ลูกภาคภูมิใจได้ เขาอาจเป็นพระเอกที่แฟนคลับตัวยงคลั่งไคล้ แต่ไม่อาจเป็นพระเอกในใจลูกของตนเอง เรื่องราวที่เริ่มต้นจากปัญหาครอบครัว เมื่อมันดำเนินไป ก็จะมีครอบครัวอยู่ในเหตุการณ์เสมอๆ ลงท้ายจึงทำให้ถึงกับน้ำตาซึม นี่แหละความสุขของพ่อคนนึง

โดยรวม คือหนังค่อนข้างจัดมาให้ทุกรส นอกจากชวนขำอารมณ์ดี เป็นจดหมายรักที่พูดถึงหนังของเคจ ก็ยังเปิดให้ลุ้นระทึกได้พอประมาณ ฉากแอคชั่นก็แทรกตัวเข้ามาพอกรุบกริบ ปมในหนังมีทั้งเรื่องงาน ภาพลักษณ์ เรื่องชีวิต และก็ยังมีปมครอบครัวอีกด้วย

ก็เอาเป็นว่า The Unbearable Weight of Massive Talent ถือว่าเป็นหนังที่ดูได้เพลินและสนุกอยู่ในระดับที่น่าพอใจ อาจจะยังไม่ใช่หนังที่สนุกที่ดีและลงตัวที่สุด เพราะหนังก็ยังรอยรั่ว และ จุดบกพร่องประปรายอยู่ตลอดทั้งเรื่อง การเล่าเรื่องของหนังที่บางครั้งก็ชวนเพลิน แต่บางครั้งก็ชวนพอเหมือนกัน ลำดับการเล่าและอินเนอร์ของหนังเรื่องนี้ยังมีบางจุดที่ทำให้รู้สึกอารมณ์ขาดตอนเป็นช่วง ๆ ไปเล็กน้อย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *