รีวิวหนัง Eternals ฮีโร่พลังเทพเจ้า

 

ท่ามกลางกระแสก่นด่าจากนักวิจารณ์เมืองนอกและคะแนนในเว็บไซต์รีวิวหนังชื่อดังที่กำลังตกไปในแดนลบ ‘Eternals’ ภาพยนตร์ฉายโรงลำดับที่ 26 ของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลหรือ MCU (Marvel Cinematic Universe) ได้เข้าฉายในประเทศไทยวันนี้เป็นวันแรกกับเดือนที่ 2 ที่โรงหนังกลับมาเปิดให้บริการ (เกือบ) ตามปกติ ผมได้พิสูจน์ตัวหนังมาแล้ว และนี่จะเป็นการรีวิวอย่างตรงไปตรงมาเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของทุกท่าน

Eternals ฮีโร่พลังเทพเจ้า เปิดเรื่องมาด้วยภารกิจอันน่าตื่นตาและทำให้เราได้รู้ว่าเหล่านักรบนาม อีเทอร์นอลส์ ถูกส่งมายังโลกมนุษย์โดยอริเชมสิ่งมีชีวิตที่เสมือนเป็นพระเจ้าผู้สร้างชีวิต โดยหน้าที่หลักของอีเทอร์นอลส์คือการช่วยเหลือมนุษย์ให้เกิดวิวัฒนาการและปกป้องพวกเขาจากเหล่าดีเวียนต์ สัตว์ประหลาดสุดเกรี้ยวกราดที่มุ่งทำลายมนุษย์และสรรพสิ่งเป็นสำคัญ

หลังอีเทอร์นอลส์ปฏิบัติภารกิจมานับพันปีก็ได้เวลาแยกย้ายเดินทางไปใช้ชีวิตตามวิถีของแต่ละคนโดยหนังเลือกให้เราไปโฟกัสที่ เซอร์ซี (เจมมา ชาน Gemma Chan) อีเทอร์นอลส์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงสสารของสรรพสิ่งได้ ซึ่งปัจจุบันเธอกลายเป็นเจ้าหน้าที่ในพิพิธภัณฑ์ในลอนดอนและเริ่มคบหากับ เดน ไวต์แมน (คิต แฮริงตัน Kit Harington) เพื่อนร่วมงานของเธอแต่แล้วเมื่อเหล่าดีเวียนต์ปรากฎตัวเป็นครั้งแรกในรอบพันปี

เซอร์ซี สไปร์ต (ไลอา แม็กฮิวจ์ Lia McHugh) ผู้มีพลังในล่องหนและใช้มีดเป็นอาวุธ และอีคาริส (ริชาร์ด แมดเดน Richard Madden) ผู้สามารถทะยานฟ้าและยิงลำแสงพิฆาตจากตาได้ต้องรวมพลกับเหล่าอีเทอร์นอลส์อีกครั้งเพื่อต่อกรกับภัยร้ายระลอกใหม่ที่มีโลกทั้งใบเป็นเดิมพัน

จะว่าไปแล้วจุดเด่นที่สุดของอีเทอร์นอลส์นอกจากการเป็นซูเปอร์ฮีโรกลุ่มแรกที่มีสถานะเทพต่อจากธอร์แล้ว อีกจุดที่ต้องพูดถึงคือการพยายามเชื่อมโยงความเป็นฮีโรเข้ากับประวัติศาสตร์และความเป็นมนุษย์จนกล่าวได้ว่าเมื่อหนังดำเนินเรื่องไปสิ่งที่สำคัญกว่าภารกิจที่ต้องกำจัดดีเวียนต์คือการตั้งคำถามต่อตัวเองว่าแท้จริงแล้วมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ควรรักษาไว้หรือไม่ ดูหนังใหม่

 

รีวิวหนัง Eternals ฮีโร่พลังเทพเจ้า

 

 

คำพูดหนึ่งของ เอแจ็ก ตัวละครที่รับบทโดยซัลมา ฮาเยค (Salma Hayek) ที่ยกเหตุการณ์ว่าธานอสดีดนิ้วแล้วเอาประชากรครึ่งจักรวาลหายไปกับตา แต่มนุษย์คนหนึ่งยอมสละชีพ (กล่าวถึงไอรอนแมนในหนัง ‘Avengers Endgame’) ดีดนิ้วเพื่อนำคนกลับมา เธอเลยมองเห็นคุณค่าของมนุษย์และต้องการปกป้องมนุษย์จากแผนการของผู้บังคับบัญชาของเธอแม้จะขัดกับเจตนารมย์ที่เหล่าอีเทอร์นอลส์ถูกส่งมายังโลกก็ตาม

ซึ่งมันทำให้บทหนังที่โคลอี้ เจา (Chloé Zhao) ผู้กำกับของหนังร่วมเขียนดูจะให้ความสำคัญกับการศึกษาตัวละครมากกว่าภารกิจเหมือนหนัง MCU เรื่องอื่นและแม้เธอจะต้องใช้กลไกอันซ้ำซากในการบอกเล่าที่มาที่ไปของตัวละครด้วยฉากแฟลชแบ็กจนทำให้น้ำหนักระหว่างภารกิจที่ต้องต่อกรกับดีเวียนต์ดูเป๋ไปบ้าง ทว่าในทางกลับกันมันกลับทำให้เห็นว่าแม้อีเทอร์นอลส์จะถูกกำหนดให้มีสถานะไม่ต่างจากเทพที่คนเคารพบูชาทว่าความเป็นมนุษย์ล้วน ๆ เลยที่ขับเคลื่อนหนังให้มีมิติของดราม่าที่น่าสนใจ

โดยเฉพาะประเด็นความไม่สมบูรณ์แบบที่เหล่าอีเทอร์นอลส์แต่ละคนต้องมาแก้ปมของตัวเอง โดยเฉพาะกรณีรักสามเส้าของเซอร์ซีกับสไปร์ตที่มีอิคาริสเป็นศูนย์กลาง ที่ฝ่ายแรกรอคนรักที่ถึงกับแต่งงานกันเป็นทางการกลับมาครองคู่นับพันปี ในขณะที่ฝ่ายหลังถูกสร้างให้ร่างกายเป็นเด็กจนฝ่ายชายไม่เคยมองเธอในฐานะสตรี และถึงแม้ว่าประเด็นนี้จะถูกผุดขึ้นมาแบบไม่มีที่มาที่ไปคล้ายกับพลอตรองเจ้าปัญหาอีกล้านแปด

 

ซึ่งส่งผลให้หนังดูมีพล็อตรองอันอีรุงตุงนัง อย่างเช่นประเด็นอาการทางจิตของ ธีนา (รับบทโดย แองเจลินา โจลี Angelina Jolie) เทพีสงครามที่ต้องได้รับการดูแลจากกิลกาเมช (รับบทโดย มาดงซ็อก) อีเทอร์นอลส์จอมพลัง หรือเรื่องการหมดศรัทธามนุษย์และการเริ่มความสัมพันธ์ในสถานะ LGBTQ+ ของ ฟาสโตส (รับบทโดยไบรอัน ไทรี เฮนรี Brian Tyree Henry) อีเทอร์นอลส์นักประดิษฐ์ ที่อาจทำให้คนดูหลายคนหงุดหงิดและรู้สึกว่าหนังแวะริมทางบ่อยเหลือเกิน

แต่เหล่านี้ล้วนแสดงเจตนาชัดเจนว่าหนังภายใต้การกำกับของเจา หาใช่หนังมาร์เวลที่เหล่าฮีโรจะมาปล่อยลำแสงเฮ้ากวงเหมือนที่ผ่าน ๆ มาไม่ แต่มันคือการพาผู้ชมไปรู้จักกับแง่มุมความเป็นมนุษย์ของแต่ละคนซึ่งไม่ได้มีด้านที่เพอร์เฟกต์และไม่ได้มีแค่การผดุงไว้ซึ่งความดีงามอันฉาบฉวยแต่หมายถึงการใช้หลักมานุษยวิทยามาค่อย ๆ อธิบายเหตุผลจนเราได้เห็นพวกเขาต้องสู้ศึกตั้งแต่ศัตรูภายนอกอย่างเหล่าดีเวียนต์จนถึงการสู้รบปรบมือกับจิตวิญญาณตัวเอง

ดังนั้นการแลกเวลาร่วม 1 ใน 3 ของหนังไปกับฉากแฟลชแบ็กที่มีเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่หลายคนอาจมองว่าน่าเบื่อและแทบจะไม่แตะประเด็นหลักของเรื่องไปมากกว่าการต่อกรกับดีเวียนต์ครั้งที่ผ่าน ๆ มา แท้ที่จริงแล้วหนังเหมือนพยายามเขียนปูมประวัติศาสตร์ของตัวเองในฐานะปฐมกาลของเหล่าฮีโร ซึ่งแน่นอนว่ามันเต็มไปด้วยรายละเอียดหลายอย่างและเปี่ยมด้วยอารมณ์ความอ่อนไหวของเหล่าอีเทอร์นอลส์จนกล่าวได้ว่านี่คงเป็นหนังมาร์เวลที่เข้าขั้นสโลว์เบิร์น (Slow Burn) ประหนึ่งหนังอาร์ตเฮาส์ที่สุดก็ไม่ผิดนัก ดูหนังฟรี

 

รีวิวหนัง Eternals ฮีโร่พลังเทพเจ้า

 

รีวิวหนัง Eternals ฮีโร่พลังเทพเจ้า เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ

 

 

และเมื่อพิจารณาว่าในบรรดาเทพทั้งหมดทำไม มาดงซ็อก ต้องมารับบทกิลกาเมซที่ชื่อไม่ได้เป็นเอเซียเลย ทำไมต้องมีตัวละครเป็นคนใบ้อย่าง มัคคารี (รับบทโดยลอเรน ริดลอฟฟ์ Lauren Ridloff) หรือมีบทของคนอินเดียอย่าง คูมาลิ นานจานี (Kumail Nanjiani)และฮาริช พาเทล (Harish Patel) ในบทคิงโกและผู้จัดการดาราก็ยิ่งชัดเจนเลยว่าเจาต้องการให้เรามองความเป็นมนุษย์ในโลกภาพยนตร์ที่มีมากกว่าฝรั่งหน้าตาดีอันเป็นธรรมเนียมของฮอลลีวูดและมันยังตอบโจทย์กับการนำเสนอความเป็นมนุษย์นิยมอย่างที่หนังต้องการได้อีกด้วย

กระนั้นนอกจากบทที่พูดถึงมนุษย์ได้อย่างถึงแก่นและนำเสนอวัฒนธรรมอันหลากหลายแล้วหนังยังไม่ลืมจุดขายสำคัญของหนังมาร์เวลทั้งฉากแอ็กชันและงานวิชวลสุดตื่นตา พร้อมการปรากฎตัวของฮีโรรายใหม่ในฉากท้ายเอนด์เครดิตที่ดูจะเป็นธรรมเนียมมาตั้งแต่ ‘Black Widow’ หนังเปิดเฟส 4 ของมาร์เวลที่ดูจะไม่ได้แยแสเหล่าฮีโรดังจากเฟสที่ผ่านมามากนักจนดูเหมือนว่ามาร์เวลเองก็ดูจะมั่นอกมั่นใจในคุณภาพหนังและศักยภาพของเหล่าซูเปอร์ฮีโรรายใหม่มากเหลือเกิน

ที่สุดแล้วไม่ว่าคะแนนของ ‘Eternals’ จะได้ครองตำแหน่งหนังมาร์เวลที่คำวิจารณ์เลวร้ายที่สุดหรือไม่ ส่วนตัวมองว่าคำวิจารณ์หนังก่อนหน้านี้ในต่างประเทศก็ดูจะใจร้ายกับหนังมากไปหน่อย แต่ยังไงคุณภาพหนังจะดีไม่ดีคำตอบก็คงต้องอาศัยประสบการณ์ตรงในโรงภาพยนตร์อยู่ดีถูกไหมครับ ?

จักรวาลหนังมาร์เวลหรือ MCU เหลือหนังฟอร์มยักษ์รอฉายในปีนี้ 2 เรื่อง ซึ่งต่างก็น่าดูเรื่องละแบบ Spider-Man: No Way Home ที่รอฉายเดือน ธ.ค. เป็นการสานต่อเนื้อเรื่องของหนึ่งในตัวละครหลักของ MCU ส่วน Eternals แนะนำให้ผู้ชมรู้จักประวัติศาสตร์และขอบเขตของ MCU กว้างขึ้น ดูหนังใหม่

 

 

โปสเตอร์ EternalsEternals เป็นเรื่องเกี่ยวกับชาวอีเทอร์นัล ซึ่งมีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ ทว่ามีความสามารถพิเศษและอายุขัยไม่จำกัด (แต่ก็ไม่ได้เป็นอมตะ) ได้รับมอบหมายหน้าที่จากเผ่าพันธุ์เก่าแก่ผู้ดูแลจักรวาลที่เรียกว่า เซเลสเชียล (Celestials) ให้นั่งยานไปยังดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตทรงสติปัญญาทั่วจักรวาล เพื่อปกป้องพวกเขาเหล่านั้นจากอสุรกายที่เรียกว่า เดเวียนต์ (Deviants) ซึ่งแฝงตัวมาในดาวแต่ละดวงตั้งแต่แรกเริ่ม

 

อีเทอร์นัล (อิคาริส) เข้าต่อสู้กับเดเวียนต์อีเทอร์นัลกลุ่มที่ถูกส่งมายังดาวเคราะห์โลกมีทั้งหมด 10 คน (ตน?) นอกจากมีสกิลพิเศษแตกต่างหลากหลาย มีทั้งคนที่เหาะได้แถมยิงแสงเลเซอร์จากตาได้ (เหมือนซูเปอร์แมนของ DC) พลังรักษาบาดแผล พลังสร้างภาพมายา พลังควบคุมจิตใจ ฯลฯ ยังมีรูปลักษณ์ภายนอก รสนิยม และบุคลิกลักษณะแตกต่างหลากหลายด้วย มีคนที่คล้ายคนจีน คนที่คล้ายคนอินเดีย คนที่คล้ายเด็ก และยังมีคนพิการทางการได้ยินที่สื่อสารด้วยภาษามือตลอด และคนดำที่เป็นชายรักชาย เรียกว่าครอบคลุมกลุ่มคนที่แตกต่างหลากหลาย (Diversity) ตามกระแสนิยมในสื่อบันเทิงปัจจุบัน

อีเทอร์นัลทั้ง 10 คนนับตั้งแต่เดินทางมาถึงโลกในยุคหิน อีเทอร์นัลทั้ง 10 คนก็ตามไล่ล่าพวกเดเวียนต์เรื่อยมาตลอดประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ พร้อมกันนั้นก็รู้สึกผูกพันและสั่งสอนศิลปวิทยาการต่าง ๆ ให้แก่มนุษย์ในอารยธรรมหลายแห่งทั่วโลก ทั้งยังกลายเป็นต้นแบบเทพเจ้าในหลายเทพปกรณัมทั่วโลก (โดยเฉพาะฝั่งกรีก – โรมัน จะเยอะเป็นพิเศษ) พวกนี้ยึดถือคติว่าจะไม่เข้าไปก้าวก่ายในความขัดแย้งหรือสงครามระหว่างมนุษย์ด้วยกันเอง ทว่ามีบางคนที่ไม่เห็นด้วยกับคติดังกล่าว และทำให้กลุ่มอีเทอร์นัลขัดแย้งกันจนแยกย้ายไปคนละทิศละทางในที่สุด

ดรูอิกมองอาณาจักรแอซเทกที่กำลังลุกเป็นไฟต่อมาในสมัยปัจจุบัน ซึ่งน่าจะหลังจากเหตุการณ์ใน Avengers: Endgame ไม่นาน อีเทอร์นัลชื่อ เซอร์ซี (รับบทโดย Gemma Chan) พบว่ามีพวกเดเวียนต์โผล่มาอีกครั้ง และดูเหมือนจะตั้งใจจู่โจมพวกอีเทอร์นัลโดยเฉพาะ นางเลยออกเดินทางเพื่อรวบรวมเพื่อน ๆ อีเทอร์นัลที่กระจัดกระจายไปทั่วโลกให้มาช่วยกันค้นหาความจริงเบื้องหลังเดเวียนต์ฝูงใหม่นี้

เซอร์ซีในโลกยุคปัจจุบันณ ขณะที่เขียนโพสต์นี้ Eternals ยังคงเป็นภาพยนตร์ใน MCU ที่ได้คะแนนรีวิวจากฝั่งนักวิจารณ์ในเว็บ Rotten Tomatoes ต่ำสุด ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา บางคนมองว่ามีเวลาเกลี่ยบทให้แต่ละตัวค่อนข้างน้อย บางคนไม่ชอบการเล่าเรื่องตัดสลับไปมาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน บางคนบอกว่าบรรยากาศแตกต่างจากหนังซูเปอร์ฮีโร่ MCU เรื่องอื่น ๆ โดยสิ้นเชิง ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นจุดที่ทำให้ผมค่อนข้างชอบเรื่องนี้ ดูหนังฟรี

 

 

ความรู้สึกหลังดูหนังEternals ฮีโร่พลังเทพเจ้า

 

 

คะแนนรีวิว Eternals ในเว็บ Rotten Tomatoesผมไม่ได้ติดตามเรื่องราวในจักรวาลมาร์เวลฉบับการ์ตูนคอมิกอย่างละเอียด แต่ก็พอรู้ว่าเรื่องราวในหนังเรื่องนี้ จะเป็นพวกอีเทอร์นัลก็ดี เซเลสเชียลก็ดี เดเวียนต์ก็ดี ต่างมีกำเนิดและบทบาทแตกต่างจากในคอมิก ซึ่งก็เป็นอีกครั้งที่ MCU นำเนื้อเรื่องดั้งเดิมในฉบับคอมิกมาตีความใหม่ได้น่าสนใจและไม่ดูเฉิ่ม ในหมู่ตัวละครอีเทอร์นัลก็มีบางตัวที่ดัดแปลงจนกือบไม่เหลือเค้าเดิมจากในคอมิก แต่ก็เป็นความเปลี่ยนแปลงที่สร้างรสชาติแปลกใหม่

Eternals ฉบับ Marvel Comicหนังขึ้นชื่อว่า Eternals แน่นอนว่าสิ่งที่ควรโดดเด่นที่สุดควรเป็นพวกอีเทอร์นัล ซึ่งโชคดีที่ตัวหนังทำแบบนั้น เรื่องนี้เท่ากับว่ามีตัวละครเอก 10 ตัว ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่บางตัวจะมีบทเด่นกว่าตัวอื่น แต่หนังก็เกลี่ยบทและแอร์ไทม์ให้ทุกตัวอย่างเหมาะสมในช่วงเวลา 2 ชม. ครึ่ง ผู้ชมได้เห็นทุกตัวปล่อยของ โชว์พลัง แสดงความรู้สึกนึกคิดและตัวตน มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน ทั้งในยุคปัจจุบันและแฟลชแบ็กย้อนอดีต ในสัดส่วนที่นับว่าพอเหมาะพอควรกับเวลาดำเนินเรื่อง ทำให้รู้สึกผูกพันกับกลุ่มอีเทอร์นัลทั้ง 10 ตนได้ง่าย ไม่ดูยัดเยียดเกิน ดูรีวิวหนังสุดมันได้ที่นี่

 

 

เซอร์ซีและอิคาริสในบ้านของฟาสทอสในด้านการดำเนินเรื่อง ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานภาพยนตร์ MCU มีการผูกปมที่เร้าอารมณ์คนดูขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงจุดไคลแมกซ์ อารมณ์ขันที่จัดวางถูกที่ถูกเวลา (แต่ก็มีตอนที่ทำให้เกาหัวแกรก ๆ บ้าง เช่น การที่ตัวละครอ้างอิงถึงฮีโร่ในเครือ DC อย่างซูเปอร์แมนหรือแบทแมน) การหักมุมที่พอให้ตะลึงพรึงเพริดได้บ้าง แม้จะไม่เหนือความคาดหมายเท่าไร ตัวละครทุกตัวทุกฝ่ายล้วนแต่มีเหตุผลรองรับการกระทำที่ชอบธรรมและฟังขึ้น ตลอดจนฉาก End credits ทั้ง 2 ฉากที่แอบเกริ่นนำตัวละครใหม่ 2 ตัวที่รอคิวเข้าสู่ MCU อย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะตัวใน End credit แรก ซึ่งแฟน ๆ การ์ตูนมาร์เวลรอคอยให้ปรากฏตัวมานานแล้ว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *