รีวิวหนังSpider-Man No Way Home

รีวิวหนังSpider-Man No Way Home

สวัสดีคับท่านผู้ชม มาพบกันกับผมและการรีวิวหนังสุดมัน วันนี้จะมารีวิวหนังเรื่อง Spider-Man No Way Home ซึ่งเหมือนเรื่องจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่รับงานฮีโรระดับเบอร์รองมาแล้วใน 2 ภาคก่อน ภาคนี้ในฐานะที่เป็นหนังในช่วงต้นของ MCU ในเฟส 4 ที่กำลังเดินหน้าปูพื้นเรื่องราวแบบ ‘พหุจักรวาล’ หรือ ‘มัลติเวิร์ส’ (Multiverse) เพื่อขยายขอบเขตวิธีการเล่าเรื่องให้กว้างกว่าแนวแอ็กชันแบบเดิม

ซึ่งตอนนี้มีซีรีส์ใน Disney+ ที่ปูพื้นเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้วทั้ง ‘Loki’ และแอนิเมชัน ‘What If…? ‘ ซึ่งซีรีส์ทั้งสองเรื่องนี้เป็นตัวสรุปอย่างชัดเจนว่า มัลติเวิร์สคือแกนหลักสำคัญและความโกลาหลครั้งใหญ่ที่เหล่าฮีโรต้องรับมือให้ได้ ซึ่งในหนังเรื่องนี้ก็ดูเหมือนว่าความโกลาหลนั้นได้ปรากฏชัดขึ้นเป็นรูปเป็นร่างแล้ว และไอ้แมงมุมก็ถือว่าเป็นฮีโรตัวแรก ๆ ที่ต้องรับผลแห่งความโกลาหลนี้แบบชัด ๆ

เรื่องราวในภาคใหม่นี้จะมาต่อจาก End Credits ที่ได้มีไว้ในภาคก่อน ซึ่งถ้าใครที่ยังไม่ได้ดู ก็ต้องขอเบรกให้ไปหาดูก่อนให้เรียบร้อยก่อนนะครับ ทั้งสองภาคมีให้ดูใน ดูหนังออนไลน์ เพราะว่าเนื้อเรื่องของภาคนี้จะเริ่มต้นมาจาก End Credits ตัวนั้นแหละ หลังจากที่สไปเดอร์แมนสามารถโค่น ‘มิสเทริโอ’ (Jake Gyllenhaal) ได้สำเร็จ

สไปเดอร์แมน โนเวย์โฮม เต็มเรื่อง ภาคนี้จะเป็นการเล่าเรื่องต่อจากภาคที่แล้วโดยทันที นั่นก็คือฉากที่นักข่าวชื่อดัง J. Jonah Jameson ประกาศออกสื่อว่า Peter Parker (Tom Holland จาก Captain America: Civil War) คือ Spider-Man และเป็นฆาตกรฆ่า Mysterio

เฟคนิวส์กลายเป็นคนที่เข้ามาทำให้ชีวิตของ Peter, Ned เพื่อนรัก (Jacob Batalon), และ MJ แฟนสาว Peter (Zendaya จาก Dune) ต้องพังไม่เป็นท่า รวมถึงแผนในการเข้า MIT มหาวิทยาลัยในฝัน แน่นแนว่า Aunt May (Marisa Tomei จาก The Wrestler) และ Happy (Jon Favreau จาก Iron Man) ก็โดนหางเลขไปด้วยเช่นกัน

ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ ไปหา ด๊อกเตอร์สเตรนจ์ เพื่อขอร้องให้เขาช่วยย้อนเวลา หรือช่วยร่ายคาถาทำให้ทุกคนบนโลกลืมว่าเขาคือ Spider-Man แต่ระหว่างพิธี ดันเกิดข้อผิดพลาดขึ้น แทนที่จะทำให้คนลืม กลับกลายเป็นการเปิดมัลติยูนิเวิร์ส อัญเชิญให้คนที่เกี่ยวข้องกับ Peter Parker ในฐานะ Spider-Man จากจักรวาลอื่นมาโผล่จักรวาลนี้แทน เรื่องราวจะจบยังไงต้องไปตามชมกันใน ดูหนังฟรี กันเองนะครับ

ทอม ฮอลแลนด์ เป็น ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ / สไปเดอร์แมน ,เซ็นเดยา เป็น มิเชล “เอ็มเจ” โจนส์-วัตสัน

เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ เป็น ดร. สตีเฟน สเตรนจ์ ,เจค็อบ บาเทลอน เป็น เน็ด ลีดส์

จอน แฟฟโรว์ เป็น แฮโรลด์ “แฮปปี” โฮแกน ,เจมี ฟ็อกซ์ เป็น แมกซ์ ดิลลอน / อิเล็กโทร

วิลเลม เดโฟ เป็น นอร์แมน ออสบอร์น / กรีนกอบลิน ,อัลเฟรด โมลินา เป็น ออตโต ออกเทเวียส / ดอกเตอร์ออกโทปุส

เบเนดิกต์ หว่อง เป็น หว่อง ,โทนี เรฟโวโลรี เป็น ยูจีน “แฟลช” ทอมป์สัน

เมริซา โทเม เป็น เมย์ ปาร์คเกอร์ ,เจ. เค. ซิมมอนส์ เป็น เจ. โจนาห์ เจมสัน

ชาร์ลี ค็อกซ์ เป็น แมตต์ เมอร์ด็อก / แดร์เดวิล ,แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เป็น ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ / สไปเดอร์แมน

โทบีย์ แมไกวร์ เป็น ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ / สไปเดอร์แมน ,ทอม ฮาร์ดี้ เป็น เอ็ดดี้ บร็อค / เวน่อม

สำหรับ Spider-Man: Far from Home เป็นเรื่องราวต่อจากภาคที่แล้ว ที่ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ ถูกมนุษย์ต่างดาวอย่างมิสเทอริโอ เปิดโปงว่าตัวจริงคือเขา เมื่อพ่อไม่อยู่แล้ว เขาจึงต้องขอแรงเพื่อนพ่ออย่างด็อกเตอร์สเตรนจ์ให้ช่วยเหลือ แต่ก็ไม่วายกลายเป็นเรื่องหนักข้อขึ้น รีวิวหนังแอ๊คชั่นฝรั่ง เพราะมันได้ชักชวนแขกจากจักรวาลอื่นมาร่วมวงด้วย คราวนี้ สไปดี้เด็กน้อยยิ่งปวดหัวหนักกว่าเดิม คิดอะไรทำอะไรนี่ผิดพลาดตลอดๆ เลยนะ

ตัวหนังภาคนี้ ตัวสไปเดอร์แมนนั้นต้องรับบทหนักและต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างมากในานะซุปเปอร์ฮีโร่ ของซูเปอร์ฮีโร่วัยกระเตาะที่ยังพึ่งพาพี่เลี้ยง การสนับสนุนจากเพื่อนสนิท และที่สำคัญคือแฟนสาวที่อยู่ข้างกาย เอ็มเจผู้เชื่อมั่นและเป็นกำลังใจให้เขามาโดยตลอด ครั้งนี้ เขาคงจะได้บทเรียนสักทีว่าการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ ไม่ใช่แค่ใส่ชุดสวมหน้ากาก และทำดีช่วยเหลือผู้คนไปวันๆ มันยังมีแง่มุมอื่นๆ ที่เขาต้องพบเจอ และบางครั้งต้องตัดสินใจเลือกทำในสิ่งที่เลือกได้ยาก ต้องรับผิดชอบ ต้องเสียสละอะไรไปบ้าง

แต่เอาเข้าจริง ตัวบทหนังเองแม้จะดีเด่นในหลายจุด หากนายแพทก็ยังพบว่าความสมเหตุสมผลบางทีก็ยังแหม่งๆ เหมือนจงใจจะให้เหตุมันดำเนินไปในทำนองนั้น รีวิวหนังแอ๊คชั่นฝรั่งน่าดู เรื่องราวจึงเน้นหนักไปที่ฉากแอคชันและบทสนทนากวนๆ ที่ชวนขำได้หลายดอก อีกเรื่องที่สไปดี้ในจักรวาลนี้ยังคงขาดหาย ก็คงจะเป็นการมีส่วนร่วมของคนตัวเล็กๆ ที่ไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่ บทหนังยังคงขาดความสัมพันธ์ของซูเปอร์ฮีโร่กับคนเมืองนิวยอร์กอยู่เช่นเดิม แต่ก็พอเข้าใจได้สำหรับภาคนี้ เพราะใส่ตัวละครมาเยอะจัด เวลาจะเล่าอะไรแบบนั้นอาจไม่พอ

Spider-Man No Way Home เต็มเรื่อง ในภาคนี้ถือเป็นการรวมรวมตัวของ ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ ทุกเวอร์ชันได้อิ่มเอมกับการพบเจอกับคาแรกเตอร์ที่ชื่นชอบ กรี๊ดวี้ดว้ายกับตัวละครที่คิดถึง และยิ้มเริงร่าเมื่อได้เห็นหน้านักแสดงที่อยู่ในความทรงจำ ซึ่งแน่นอนว่า มันก็ไม่ได้มีแค่ที่เห็นในตัวอย่างหรอก ซึ่งเราก็คงไม่เฉลยว่าใคร แต่ถ้าใครเสพโซเชียลเยอะก็อาจโดนสปอยล์ไปเรียบร้อย ซึ่งอันนั้นก็คงช่วยไม่ได้

สิ่งที่น่าสนใจกว่าการที่หนังเซอร์วิสแฟนแบบจัดเต็ม ก็คือ การเอาเรื่องราวเก่าๆ มาขยี้ใหม่ ขยายเรื่องราวที่อาจถูกทิ้งค้างไว้ให้ได้รับโอกาสแก้ปม รีวิวหนังแอ๊คชั่นฝรั่งน่าสนใจ ใครที่อินมากับทุกภาคก็จะซึมซับเข้าใจได้ทุกบทพูด แต่ถ้าใครลืมๆ ไปบ้างแล้ว แนะนำว่าให้หาของเก่ามาไล่ดูแล้วไปจัดกับภาคนี้ ก็น่าจะได้อรรถรสแบบเต็มขั้น

ถือว่ารักษาเอกลักณ์หนังฮีโรในแบบฉบับของ Marvel ได้อย่างครบถ้วน แต่นอกจากหนังเรื่องนี้จะเป็นหมุดหมายสำคัญของการเดินทางสู่มัลติเวิร์สอย่างเต็มตัวแล้ว หนังเรื่องนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นหนังที่แฟนบอย สไปเดอร์-แมนไปดูยังไงก็ไม่ผิดหวังครับ เพราะนอกจากเรื่องราวที่โตขึ้นและการที่เราจะได้เห็นพัฒนาการ และจังหวะหัวเลี้ยวหัวต่อชีวิตของปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ ที่กลายเป็นซูเปอร์ฮีโรแบบเต็มตัว และเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนมาก ๆ

ชื่อภาพยนตร์ Spider-Man: No Way Home / สไปเดอร์แมน โน เวย์ โฮม

ผู้กำกับ Jon Watts

ผู้เขียนบท Chris McKenna, Erik Sommers

นักแสดง Tom Holland, Zendaya, Benedict Cumberbatch, Jacob Batalon, Willem Dafoe, Alfred Molina, Benedict Wong, Jon Favreau

แนว/ประเภท Action, Adventure, Fantasy, Sci-Fi

เรท PG-13

ความยาว 148 นาที

ปี 2021

เข้าฉายในไทย 23 ธันวาคม 2021

ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย Columbia Pictures, Pascal Pictures, Marvel Studios