รีวิวหนังResident Evil ผีชีวะปฐมบทแห่งเมืองผีดิบ
ต้องบอกเลยว่า มาอีกแล้ว มาพบกับผม และ การรีวิวหนังสุดมัน วันนี้ผมจะมารีวิวหนังเรื่อง Resident Evil: Welcome to Raccoon City ผีชีวะปฐมบทแห่งเมืองผีดิบ เป็นอีกเรื่องที่คนดูหนังเสียงแตกเป็นสองฝั่งหลังชมภาพยนตร์ ผีชีวะ Resident Evil ภาคล่าสุดซึ่งเป็นภาคย้อนต้นไปยังเมือง Raccoon City ต้นกำเนิดผีดิบที่เป็นผลจากการทดลองของบริษัท Umbrella เนื่องจากเรื่องนี้สร้างจากเกมดัง คนที่เล่นเกมก็จะคาดหวังไปแบบหนึ่งผลปรากฏว่าไม่ได้อย่างใจสู้เกมไม่ได้ก็จะไม่ชอบหนังภาคนี้ ส่วนคนดูที่ไม่ได้เล่นเกมโดยมากจะไม่ชอบเวอร์ชั่นมิลล่า โจโววิช ที่ผ่านมาทั้ง 6 ภาค เพราะดูแล้วเหมือนเล่นเกม
กลับชอบหนังเรื่องนี้ที่ดูมีความเป็นหนังมากกว่า มีการแจกบทตัวละคร มีสถานการณ์ มีเหตุผลที่มาที่ไปของแรงจูงใจและการกระทำแต่ละอย่างมากกว่า ทั้งหนังตั้งใจทำให้เหมือนหนังสยองขวัญเกรดบีเมื่อ 50 ปีที่แล้วซึ่งดูแล้วได้อารมณ์มาก ผู้โพสท์อยู่ในฝั่งของคนที่ชอบจึงให้ได้ถึง 8 เต็ม 10 แม้ว่านักวิจารณ์เว็บมะเขือจะชอบกันแค่ 30% ก็ตาม ดูหนังออนไลน์
ชื่อภาษาอังกฤษ Resident Evil: Welcome to Raccoon City ชื่อภาษาไทย ผีชีวะ: ปฐมบทแห่งเมืองผีดิบ เป็นภาพยนตร์จากประเทศแคนาดา เรท R ความยาว 1 ชั่วโมง 47 นาที ประเภท แอ็คชั่น สยองขวัญ และ ไซไฟ เข้าฉายประเทศไทย 27 มกราคม 2565 แต่จัดเป็นหนังของปี 2021 เนื่องจากฉายในหลายประเทศไปแล้วตั้งแต่ปีที่แล้ว ขณะนี้ทำเงินไปแล้ว 32 ล้าน $ ทั่วโลก ซึ่งเป็นตัวเลขจากสหรัฐฯ 17 ล้าน ถือได้ว่าพอถูไถในยุคโควิด คะแนนเฉลี่ยใน IMDb นักวิจารณ์ 44/100 ประชาชน 5.2/10 ในเว็บมะเขือ นักวิจารณ์ชอบ 30% คนดู 66% กำกับโดย โจฮันเนส โรเบิร์ตส์ ดูหนังฟรี
รีวิวหนังResident Evil ผีชีวะปฐมบทแห่งเมืองผีดิบ เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
หนังเริ่มเรื่องด้วยการแนะนำให้เราได้รู้จักกับคริสและแคลร์ เรดฟิล์ดพี่น้องที่ต้องอาศัยในบ้านเด็กกำพร้าเมืองแร็กคูนซิตี้ได้พบเหตุการณ์แปลกประหลาดบางอย่างและด้วยเหตุการณ์บางอย่างก็ทำให้แคลร์ต้องหนีออกจากแร็กคูนซิตี้ ก่อนที่เหตุการณ์จะตัดไปในปี 1998 ที่แคลร์ (รับบทโดย คายา สโคเดลาริโอ Kaya Scodelario) ได้โบกรถกลับมายังแร็กคูนซิตี้ ระหว่างทางนั้นเองที่รถบรรทุกที่เธอขอโดยสารชนเข้ากับหญิงสาวรายหนึ่งอย่างจังแต่พอลงไปดูก็พบว่าบนท้องถนนกลับว่างเปล่า
และเมื่อมาถึงเมืองแร็กคูนซิตี้เราก็พบว่าแท้จริงแล้ว แคลร์ได้เดินทางกลับมาหาคริส (รับบทโดย รอบบี เอเมล Robbie Amell) พี่ชายนายตำรวจของเธอเพื่อนำความจริงเรื่องอัมเบรลลา คอร์เพอเรชัน (Umbrella Corporation) แอบปนเปื้อนสารพิษในน้ำประปาของประชาชนจนเป็นสาเหตุของโรคระบาดบางอย่างที่กำลังจะเปลี่ยนคนให้กลายเป็นอสุรกาย
แต่ก็เหมือนคริสจะไม่สนใจและเดินทางไปยังสถานีตำรวจเพื่อสมทบ กับ จิล วาเลนไทน์ (รับบทโดย ฮันนาห์ จอห์น คาเมน Hannah John-Kamen) ตำรวจสาวห้าวที่เขาแอบมีใจให้ แต่วาเลนไทน์กลับมีใจให้เพียงแค่ อัลเบิร์ต เวสเกอร์ (รับบทโดยทอม ฮอปเพอร์ Tom Hopper) ตำรวจหนุ่มล่ำสุดขรึม และยังมี ลีออน เอส เคนเนดี (รับบทโดย เอวาน โจเกีย Avan Jogia) ตำรวจหน้าใหม่ที่ต้องมารับมือกับสถานการณ์นรกแตกในแร็กคูนซิตี และเป็นแคลร์ เรดฟิล์ดที่อาจไขความลับอันดำมืดด้วยอดีตอันโหดร้ายก่อนที่พวกเขาจะต้องหนีตายจากการล้างบางเมืองต้องคำสาปอย่างแร็กคูนซิตี้แห่งนี้ ดูหนังออนไลน์
ความจริงแล้วด้วยชื่อของ โยฮันเนส โรเบิร์ตส์ (Johannes Roberts) ไม่ใช่ชื่อที่ขี้เหร่เลยนะสำหรับการมาสานต่อตำนานบทใหม่ของ ‘ผีชีวะ’ คราวนี้และการที่โรเบิร์ตส์ลงมือจรดปากกาเขียนบทเองเหมือนทุกครั้งอย่างน้อยก็มั่นใจว่าเราจะได้เห็นซีนซอมบี้ผีดิบน่ากลัว ๆ หรือ ลุ้นจนอกแทบตายคล้าย ๆ กับงานสร้างชื่ออย่างหนังเชือดโคตรระทึก ‘Strangers Prey at Night’ หรือ หนังฉลามสุดกดดันอย่าง ’47 Meters Down’ ซึ่งผลลัพธ์ก็ต้องยอมรับล่ะว่าการพยายามกลับไปหาเนื้อเรื่องเกมต้นฉบับและอิงรายละเอียดจากเกมฉบับรีเมกช่วยสร้างบรรยากาศที่ดูน่ากลัวขึ้นมาได้จริง ๆ
แต่ทุกอย่างก็ค่อย ๆ พังครืนด้วยการที่โรเบิร์ตส์พยายามยัดทุกอย่างเพื่อเอาใจแฟนเกมลงในหนัง ลำพังแค่ฉากที่แคลร์เจอศพแอบวิ่งหนีเธอก็ชวนส่ายหัวจนอยากหาพารามาบรรเทาอาการจะแย่อยู่แล้ว ยิ่งหนังเดินเรื่องไปเราก็พบว่ามันพยายามผูกปมมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งปมการหนีออกจากแร็กคูนซิตี้จากแคลร์ หรือการที่คริสเองถูกเลี้ยงมาโดย วิลเลียม เบอร์กินรับบทโดย นีล แมคโดนาฟ Neal McDonoughนักวิทยาศาสตร์ที่เคยเกือบพรากชีวิตแคลร์ในวัยเด็ก ไปจนถึงปมสุดอีรุงตุงนังที่หนังไม่สนใจจะคลี่คลายมันสักเท่าไหร่
และเมื่อปมเริ่มเยอะขึ้น ซ้อนทับขึ้น คนทำหนังก็กลับตัดมันทิ้งแบบไม่เหลือเยื่อใยแล้วยัดเยียดฉากหนีซอมบี้เข้ามากลบเกลื่อนพล็อตที่มีแต่รูโหว่เต็มไปหมดได้ไม่ค่อยแนบเนียบเท่าไหร่จนผลลัพธ์ของมันคือการกลายเป็นหนังซอมบี้จากเกมที่เหมือนจำลองฉากมาต่อ ๆ กัน ซึ่งแม้จะสร้างความบันเทิงได้ชั่วครั้งชั่วคราวแต่จบแล้วก็พร้อมจะลืมในทันที ดูหนังฟรี
ความรู้สึกหลังดูหนังResident Evilผีชีวะปฐมบทแห่งเมืองผีดิบ
สิ่งที่น่าสนใจคือหนังตั้งใจที่จะชูเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครแคลร์และคริส เรดฟิลด์ ด้วยการเปิดเรื่องราวมาที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แถมยังให้แอร์ไทม์กับตัวละครสุดสะพรึงจากในเวอร์ชั่นเกมกับลิซ่า เทรเวอร์อีกด้วย แต่น่าเสียดายที่ตัวละครตัวอื่นๆ อาทิ ลีออน เอส. เคนเนดี้ ที่ในเวอร์ชั่นเกมถึงเขาจะตื่นสายและไปเข้างานไม่ทัน
แต่เขาก็ยังสมาร์ท หล่อ เท่และดูไม่เป็นไอ้เห่ยแบบในเวอร์ชั่นนี้ ยังไม่รวมไปถึงตัวละครอย่างจิล วาเลนไทน์ ที่ถูกตีความใหม่เป็นสาวจอมห้าวสุดกวนโอ้ย ห่างไกลจากเวอร์ชั่นเกมไปหลายขุม (จิล ใน Resident Evil: Apocalypse ซึ่งแสดงโดยเซียนน่า กิลลอรี่ ยังมีความใกล้เคียงกว่ามากๆ)
การตีความตัวละครใหม่ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ว่า วิธีการดีไซน์ตัวละครเหล่านี้ให้ออกมาดูไม่ทำร้ายจิตใจแฟนเกมน่าจะเป็นความสำคัญในลำดับต้นๆ ยิ่งไปกว่านั้นการที่หนังแทบจะไม่ได้ให้เวลาผู้ชมได้ทำความรู้จักกับตัวละครเหล่านี้อย่างที่ควรจะเป็น ยิ่งทำให้บรรดาฉากแอ็คชั่นปนสยองขวัญที่ควรจะเต็มไปด้วยความลุ้นระทึก ยิ่งกลายเป็นว่าตัวละครเอกเหล่านี้ ดูแทบจะไม่เหลืออะไรที่สมควรจะได้รับการเอาอกเอาใจช่วยเลย
แฟนเกมอาจจะฟินน้ำแตกที่ได้เห็นด้านนอกของสถานีตำรวจ R.P.D และ โถงของคฤหาสน์สเปนเซอร์ตามโมเมนต์แรกที่ผู้เล่นเกมภาคแรกได้เห็นฉากนี้ แต่นั่นก็เป็นแค่เพียงสิ่งที่ทำให้ผู้ชมได้แต่ยิ้มหวานเพียงชั่วครั้งชั่วคราว เมื่อเอาเข้าจริงแล้วเมื่อตัวละครออกสำรวจตัวคฤหาสน์หรือสถานีตำรวจในซอกมุมอื่นๆ ก็คงต้องบอกว่า มันไม่มีอะไรที่เหมือนกับเกมทั้ง 2 ภาคแรกเลยสักนิดเดียว รีวิวหนังออนไลน์
เราอาจจะได้เห็นอุปกรณ์ประกอบฉากที่ทำให้ผู้ชมนึกถึงเกม ไม่ว่าจะเป็นลูกกุญแจ ไอเท็มอาทิ สมุนไพรสามสี กระทั่งฉากซอมบี้หันหน้าอันแสนตราตรึง แต่ด้วยทุนสร้างอันจำกัดจำเขี่ยและความพยายามที่ยำรวมเกมทั้งสองภาคเอาไว้ในหนังเรื่องเดียว จึงกลายเป็นแนวคิดที่ดูละโมบเกินไปและไม่อาจจะทำให้เส้นเรื่องของหนังดูออกมาเป็นเหตุเป็นผลกันได้สักเท่าไหร่
อันที่จริงโครงเรื่องในหนัง Resident Evil: Welcome to Raccoon City ถือว่าค่อนข้างสนใจ เพราะต้องมีใครใคร่อยากรู้ถึงต้นสายปลายเหตุของอุบัติภัยที่เกิดขึ้น ที่เป็นต้นตอของหนังแฟรนไชส์ชุดที่แล้ว แต่กลายเป็นว่าภาคต้นภาคนี้กลับตอบโจทย์ผู้ชมยังไม่ได้ เจาะเข้าไปไม่ถึงจุด และ เป็นเพียงแค่การเล่าเรื่องแบบผิวเผินที่พยายามที่สร้างความสยองและบิ้วความสนุกเกินไป จนกลายเป็นความไม่สนุก
อย่างน้อยๆ แล้ว Resident Evil: Welcome to Raccoon City ก็กลายเป็นสิ่งที่ทำให้หนัง Resident Evil ฉบับของ มิลลา โยโววิช ดูดีขึ้นมาเป็นกองเลย อย่างน้อยๆ เวอร์ชั่นก่อนก็ยังมีจุดเด่นและเสน่ห์ในตัวที่แฟนๆ ใฝ่หา แต่กลับในเรื่องนี้นั้น ยังไม่ใช่การแก้โจทย์สมการที่น่าจะเข้ากับแฟนๆ ได้ดีเท่าไหร่ที่ควร ก็เป็นเพียงหนังซอมบี้จังหวะเชยๆ ที่บอกเลยว่าเชยสะบัดตั้งแต่นาทีแรกที่เปิดเรื่องขึ้นมาก็ว่าได้