รีวิวหนังDELIVER US FROM EVILให้มันจบที่นรก

 

 

มาเจอกันอีกครั้งกับผมและการรีวิวหนังสุดมัน วันนี้ผมจะมารีวิวหนังเรื่อง DELIVER US FROM EVILให้มันจบที่นรก หนังเกาหลีสายแอ็กชันที่เปิดหัวมาด้วยสถิติสุดสวยจากการขายตั๋วได้ถึง 2 ล้านใบภายใน 5 วันที่เกาหลี เอาชนะหนังมาแรงแห่งปีอย่าง Peninsula (ภาคต่อ Train to Busan) ไปได้เป็นที่ประหลาดใจหลายคน แถมขึ้นแท่นหนังแอ็กชันที่ดีที่สุดแห่งปีของเกาหลีจากนักวิจารณ์เกาหลีบางสำนักด้วย

ภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นโหดเรื่องใหม่ส่งตรงจากประเทศเกาหลีของผู้กำกับ ฮง วอน ชาน จาก Slasher พนังงานดีเดือด (2015) และ ได้เลือกนักแสดงอย่าง ฮวัง จอง มิน จาก The Wailing ฆาตกรรมอำปีศาจ (2016) สมทบด้วย ลีจอง แจ จาก Assassination ยัยตัวร้าย สไนเปอร์ (2015) และ พัค จอง มิน จาก Time to Hunt (2020) มาร่วมแสดงให้ กับ ภาพยนตร์เรื่องนี้อีกด้วย

หนังเรื่องแรกที่เขาทั้งเขียนบท และ กำกับเองอย่าง Office (2015) เองก็ได้รับเลือกไปชิงในสาขา Golden Camera ที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ด้วย ซึ่งใครได้ดูหนัง Office มาแล้วก็น่าจะจำได้ดีถึงฝีมือการขยี้วัฒนธรรมเกาหลีที่เป็นส่วนสากลอย่างการทำงานในออฟฟิศ ออกมาได้น่าตื่นเต้น เย้ยหยัน และ ปวดใจได้ขนาดไหน การกลับมาหลังจากบ่มไอเดียนานถึง 5 ปีของเขาใน Deliver Us From Evil ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย

ซึ่งในครั้งนี้แม้ความคมคายในบทหนังอาจไม่ได้มีมากอย่างที่เราหวัง แต่มันก็เข้มในแนวทางของหนังบู๊ที่หยิบยืมหัวใจของหนังแอ็กชันฮ่องกง หรือหนังแอ็กชันเอเชียอาคเนย์ทั้งจากบ้านเรา และ อินโดนีเซีย มาผสานกันได้สนุก จะว่าไป ฮงวอนชาน ก็เป็นสายบทหนังธริลเลอร์เข้ม ๆ ดาร์ก ๆ ตัวพ่อเหมือนกันและทำการบ้านมาได้ดีมาก ๆ จึงทำให้ตลอดเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงของ Deliver Us From Evil เต็มไปด้วยความเท่ ความดาร์ก และ เรื่องราวที่ปูมาสำหรับแอ็กชันได้ลุ้นสุด มันสุด เช่นกัน ดูหนังใหม่

 

รีวิวหนังDELIVER US FROM EVILให้มันจบที่นรก

 

รีวิวหนังDELIVER US FROM EVILให้มันจบที่นรก เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ

 

เปิดฉากมาที่โตเกียวคิมอินนัม (ฮวางจองมิน) นักฆ่ามือฉกาจที่ไม่เคยทำงานพลาด  ได้รับงานสุดท้ายก่อนเกษียณให้สังหารยากูซ่าขื่อโกเรดะ และ งานก็ลุล่วงไปด้วยดี  แล้วอินนัมก็จะเกษียณไปอยู่ กับ หาดทรายสายสมแสงแดดที่ปานามา  แต่นายหน้าที่รับงานมาให้ก็ยังพยายามโน้มน้าวให้เขารับงานสุดท้ายซึ่งอินนัมก็ยังปฏิเสธ  ตัดมาที่กรุงเทพเมืองฟ้าอมรซอยองจู (ชเวอีซอ) คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวชาวเกาหลีที่อยู่ในประเทศไทย  และ กำลังจะถูกหลอกให้ซื้อสนามกอล์ฟจากนายหน้าชาวเกาหลีเอง  แต่แล้วหลังจากนั้นยูมิน (#พัคโซยี) ลูกสาวของเธอก็ถูกลักพาตัว

กลับมาที่โตเกียว  นายหน้าแจ้ง กับ อินนัมว่างานสุดท้ายที่เขาเพิ่งทำลุล่วงดันไปชนตอ  เมื่อโกเรดะมีน้องชายอีกคนที่ไม่ได้ติดต่อกันมานานและเป็นมือสังหารที่ชมชอบการเชือดเหยื่อเมื่อยังมีลมหายใจขนานนามว่าเรย์ (อีจองแจ) และ แน่นอนว่าเรย์ต้องตามล่าคนที่ฆ่าพี่ชายและกำลังจะสาวมาถึงอินนัม 

เพราะคนอย่างเรย์ก็คือพวกนอกกฎหมาย และ กัดไม่ปล่อยเช่นเดียว กับ อินนัมต่างกันที่เรย์ไร้กติกามารยาท และ หัวใจ  ทางด้านอินนัมก็ได้รับการติดต่อจากอดีตหัวหน้าทีมหน่วยสังหารลับของรัฐบาลเกาหลีมาแจ้งข่าวมาว่ายองจูที่เคยเป็นคนรักของเขาถูกฆ่าตายในกรุงเทพ  และ ลูกสาวของเธอซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นลูกสาวของอินนัมหายตัวไป ดูหนังฟรี

 

รีวิวหนังDELIVER US FROM EVILให้มันจบที่นรก

 

แล้วจุดหมายของนักฆ่ามือพระกาฬสองคนผู้ไม่ต่างจากเดินออกมาจากขุมนรกจึงอยู่ที่กรุงเทพฯ และเ มื่อถึงกรุงเทพฯอินนัมได้จ้างยุ้ย (พัคจองมิน)สาวประเภทสองชาวเกาหลีที่หนีบ้านเกิดมาทำงานในบาร์ที่กรุงเทพให้ช่วยเป็นไกด์  จนอินนัมสืบจนทราบว่ายูมินถูกขายให้ กับ แก๊งค้าอวัยวะที่เป็นของผู้มีอิทธิพลในไทยนามว่าเฉาโป (วิทยา ปานศรีงาม)ปฏิบัติการช่วยลูกสาวจึงเริ่มขึ้น (ตามสูตร)

แต่มันคงไม่ง่ายที่จะช่วยแล้วหนีหายไปเมื่อเรย์ก็ตามมาจนทัน  ตำรวจก็เข้ามาสืบสวนการค้าอวัยวะเพราะเรื่องมันแดงขึ้นมา  ถ้ายังไม่หนำใจแก๊งเฉาโปที่ทั้งค้ายา และ ค้าอวัยวะมนุษย์ที่ถูกตีท้ายครัวก็ตามล่าสองนักฆ่า

อินนัมจึงต้องพายูมินเอาชีวิตให้รอดจากการตามล่าจากทุกฝ่ายให้ได้โดยมียุ้ยเป็นตัวแปรที่ตกกระไดพลอยโจน  แต่กระนั้นแม้จะดูมากมายหลายพวกแต่เรื่องกลับเลือกที่จะเล่นไม่ยากด้วยการเล่าเรื่องตรงๆเปิดทีละมุม  วางพื้นหลังของตัวละครให้ลึกพอแล้วค่อยๆเร้าอารมณ์ทีละนิดจนเมื่อถึงเวลาก็ใส่ความเร้าใจกันมาแบบไม่ยั้ง  ทว่าก็ยังอดคิดถึงหนังเรื่องอื่นไม่ได้  และ ยังมีรอยในตัวบทให้สัมผัสเต็มสองตา  แต่ความมันส์ที่หนังให้มากลับทำให้ริ้วรอยที่ว่ากลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลย ดูหนังฟรี

 

 

ความรู้สึกหลังดูหนังDELIVER US FROM EVILให้มันจบที่นรก

 

สำหรับความบันเทิงจากงานแอคชัน ก็ต้องถือว่าจัดเต็มมาอย่างดี ดูเพลินเลย ให้ลุ้นตื่นเต้นมันส์ๆในหลายสไตล์ ไม่ว่าจะบู๊ด้วยอาวุธประชิดตัว กดดันด้วยพื้นที่แคบๆของโถงทางเดิน หรือกราดยิงถล่มใส่กันโครมๆกลางลานถนน ตะลุมบอนชุลมุนหลายฝ่าย หรือฉากระเบิดตูมตาม ฉากโลดโผนเสี่ยงตาย ลุ้นระทึกไล่ล่าอย่างตื่นเต้น หรือฉากเสียวสยองเชือดสด ตัดนิ้วตัดหูชวนให้จินตนาการร้องตามกันเลย

แต่ความเว่อร์ไม่สมจริงก็ย่อมมีบ้างนะ เช่น คิดดูสิว่า ใช้รถตุ๊กตุ๊กซิ่งประจันบานกลางห่ากระสุน คนขับตุ๊กตุ๊กนี่คือฮีโร่สุดๆเลยนะ 555 ก็คิดซะว่าเขาช่วยขายตุ๊กตุ๊กเอกลักษณ์ไทยๆให้เรา แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็พ่วงนำเสนอเมืองเราในด้านมืดไปด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นบ้านช่องโทรมๆที่จัดแสงย้อมสีให้ดูป่วยหนักไปอีก

พลุกพล่านจอแจแบบไม่ศิวิไลซ์ ความล้าหลังของระบบความปลอดภัยกล้องวงจรปิดตามท้องถนน ประสิทธิภาพของตำรวจ ตามด้วยความเสื่อมทรามชุกชุมของมิจฉาชีพ อบายมุข อาชญากรรม ค้ายาค้ามนุษย์ เจ้าพ่ออิทธิพล โอย เรียงกันมาฉาวยังกะเป็นเมืองเถื่อนเลย

สำหรับนักแสดง ฮวังจองมิน และ อีจองแจ ยังไม่ต้องดูก็เชื่อใจได้ในฝีมือ และ พอนึกภาพออกอยู่ ทั้งคู่เคยแสดงหนังแนวใกล้เคียงร่วมกันมาแล้ว มีความเข้าขากันอย่างสมศักดิ์ศรี แต่ที่เซอร์ไพรส์ผู้เขียนมาก คือ พัคจองมิน ในบทสาวประเภทสอง แม้ว่าจะเห็นภาพจากข่าวโปรโมตมาบ้างแล้ว แต่พอมาดูจริง คือต้องยกนิ้วให้ลีลาที่สุดเนียนอินเนอร์จัดเต็ม ดูหนังใหม่

 

 

จริตจะก้านน่าเอ็นดูจริงๆ 555 และ ที่สุดทึ่งคือ พูดไทยปร๋อ ชัดถ้อยชัดคำมาก พูดฟังออกเกือบทุกประโยค เรียกได้ว่าเติมสีสันอีกรสชาติให้หนังมีเสน่ห์มากขึ้น เบรคคลายเครียดได้ดี สมควรมอบรางวัลขโมยซีนดีเด่นเลย เพราะสามารถฉายรัศมีท่ามกลางสองนักแสดงระดับตัวพ่อได้ ทำเอาผู้เขียนหลงรักพัคจองมินขึ้นไปอีก แต่กลับกัน ผู้เขียนออกจะผิดหวังหน่อยๆ กับ นักแสดงไทยซึ่งเข้าฉากบทสนับสนุน ส่วนใหญ่จะเล่นแข็งกันจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทพูดที่ไม่เป็นธรรมชาติเอาซะเลย

ส่วนที่เป็นตัวขโมยซีนคือพัคจองมินในบทยุ้ยสาวประเภทสองที่เป็นสีสันให้ กับ เรื่องแบบเห็นๆ  การแสดงมีความลึก  ทั้งก๋ากั่น  หวาดกลัว  แต่ไม่ใช่คนชั่วร้าย พัคจองมินเล่นจนเชื่อเลยว่านี่คือสาวประเภทสองจริงๆที่มาแสดง  และ ที่น่าทึ่งมากคือการลงลึกด้านมิติความสัมพันธ์ระหว่างยุ้ย กับ อินนัมที่เชื่อได้เลยว่ายุ้ยต้องมาช่วยอินนัมแน่นอน

เพราะเห็นมิติในสายตาแล้ว  และด้วยความที่เวลาไม่มากแค่ชั่วโมงครึ่งจึงเป็นเรื่องที่น่าทึ่งในการไม่หลงลืมเรื่องมิติจนทำให้ผู้ชมมีอารมณ์ร่วม  สนุกพร้อม กับ ลุ้นระทึก  ทั้งนี้ก็ถูกเร้าด้วยงานดนตรีประกอบและงานด้านภาพที่ย้อมโทนสีให้ดูร้อนและแห้ง  ทำให้รู้สึกว่าบรรยากาศมันระอุพร้อมที่จะระเบิดอารมณ์ได้ทุกเมื่อในอุณหภูมิแบบนี้ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ได้สดใหม่แต่ถ้าใส่ใจ และ ทำได้ถึง  ผลก็ออกมาสนุกจนแทบลืมหายใจแบบนี้

ด้วยความที่เป็นหนังเกาหลีผู้เขียนจึงคาดหวังเรื่องชั้นเชิงมากกว่านี้  เพราะปกติเกาหลีมักจะมีดีที่เชิงอันเหนือชั้น และ เป็นเช่นนั้นเกือบทุกเรื่อง  แต่เรื่องนี้กลับเป็นการเล่าเรื่องไปตรงๆตามลำดับไม่ซับซ้อน  ไม่ต้องตั้งท่ามายาก  ไม่ต้องระแวงว่าหนังจะหักมุมทำให้ผิดคาดเล็กๆ  แต่ผิดคาดไม่ได้หมายถึงความผิดหวัง  เพราะบนความไม่เล่นให้ยากกลับทำให้ นี่คือหนังที่ดูสนุกแบบสุดตัว ดูรีวิวหนังสุดมันได้ที่นี่

 

 

จึงกลายเป็นการพิสูจน์ว่าเกาหลีถ้าจะเล่นง่ายๆก็เล่นได้ และ ทำได้ดีด้วย  แต่มันก็บอกกลายๆว่าการจะทำหนังออกมาให้สนุกบางทีไม่ต้องพยายามซับซ้อนให้มากความก็สนุกได้ ยิ่งเรื่องนี้ยิ่งดูก็ยิ่งนึกถึงหนังอย่าง Extraction ทั้งพล็อต  โทนเรื่อง  โทนสี  ฉากและโลเกชั่น  รวมฉากต่อสู้ด้วยก็ได้แค่เปลี่ยนหรือบิดรายละเอียดเท่านั้น

แต่ความจริงมันได้ถูกสร้างมานานมากแล้วสำหรับเรื่องประมาณนี้  แต่เมื่อเรื่องมันไม่ใหม่ก็ไม่ต้องพยายามเยอะเกินตัว  แล้วรู้ตัวว่าตัวเองมีของดีอะไรแล้วใส่มาอย่างพอดีไม่ขาดหรือไม่เกินหนังเลยออกมาสนุก  กระนั้นเมื่อเห็นหนังระดับอินเตอร์ที่มาถ่ายทำในเมืองไทย  และ เห็นชัดเจนเรื่องของจุดเด่น และ จุดด้อยของสิ่งที่มีในบ้านเราก็ยังนึกเสียดายว่า

ทำไมหนังไทยไม่สร้างหนังแบบนี้ทั้งที่เรื่องนี้ไม่ได้ซับซ้อนมากมาย  ง่ายๆเดินหน้าไปตามธงของบทที่วางไว้ไม่ได้เหนือชั้นลองเชิงอะไร  แค่แกนหลักมีความสมจริงก็พาหนังไปยังจุดที่หนังต้องการขาย และ ผู้ชมต้องการซื้อได้  เหมือนกับหนังเรื่องนี้ที่เกาหลีไม่พยายามยากเล่นง่ายแต่ได้ใจ  เพราะมันสนุกจนแสบลำไส้ไม่ต่างจากส่งตรงมาจากขุมนรก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *