รีวิวหนังCODE 8ล่าคนโคตรพลัง

 

 

สวัสดีคับท่านผูชม มาพบกับผม และ การรีวิวหนังสุดมัน วันนี้ผมจะมารีวิวหนังเรื่อง CODE 8ล่าคนโคตรพลัง เดิมที CODE 8 คือหนังสั้นไซไฟแอ็กชันของ เจฟฟ์ ชาน ในปี 2016 ที่ได้ดาราชื่อดังอย่างพี่น้องสายพระเอกซีรีส์ทั้ง สตีเฟน เอเมล จาก Arrow  และ รอบบี เอเมล จาก The X-Files แถมยังพ่วงดาราเอเซียเบอร์ใหญ่อย่าง ซุง คัง หรือ ฮาน จากหนังตระกูล Fast and Furious โดยเล่าถึงโลกสมมติที่ผู้มีพลังพิเศษถูกเลือกปฏิบัติจนหนึ่งในพวกเขาต่อสู้กับความอยุติธรรมด้วยพลังของตัวเอง ซึ่งบทคอนเนอร์ตัวเอกจากหนังสั้นก็ยังได้ รอบบี เอเมล กลับมารับบทเดิมในหนังยาวพ่วงพี่ชายอย่าง สตีเฟน เอเมล ที่ได้มารับบท แกร์เรต ตัวละครใหม่ที่เพิ่มเข้ามา

โดยได้ ซุง คัง กลับมารับบทตำรวจที่คราวนี้เพิ่มรายละเอียดเป็น ปปส. อัปเกรดจากหนังสั้นที่เป็นเพียงตำรวจลาดตระเวนธรรมดา พร้อมความยาวที่เพิ่มจาก 10 นาทีเป็น 98 นาที ซึ่งต้องยอมรับว่าแม้ไอเดียจากหนังสั้นจะเวิร์กอยู่แล้ว และ การเพิ่มเรื่องราวของโลกอาชญากรรมผู้มีพลังพิเศษจะน่าสนใจแต่การยัดเรื่องราวมหาศาลของมันก็ทำให้ผลทางดราม่าที่เป็นหัวใจหลักอย่างความสัมพันธ์แม่ลูกของคอนเนอร์ที่หนังพยายามบิลต์ไม่ทำงานเท่าที่ควร

โดยเวอร์ชันหนังใหญ่ของ CODE 8 ก็เหมือนเป็นการขยายความหมายของชื่อเรื่องที่หมายถึงอาชญากรรมโดยผู้มีพลังพิเศษ แน่นอนล่ะว่ามันคือการเปรียบเปรย (Allergory) กับการเลือกปฏิบัติกับผู้อพยพหรือพลเมืองชั้น 2 ในอเมริกา และสามารถวิพากษ์เรื่องชนชั้นได้เห็นภาพแถมไปไกลถึงขั้นเล่าฉาก Prologue หรือ อารัมภบท

โดยเอาฟุตเทจข่าวมาใส่เสียงบรรยาย และ มีถ่ายเป็นเชิงสารคดีว่าเมืองลินด์คอนที่เป็นฉากหลังถูกสร้างโดยกลุ่มผู้มีพลังพิเศษก่อนถูกกีดกันจนต้องมีชีวิตยากลำบาก และ ทีละน้อยที่คราวนี้บทหนังของ เจฟฟ์ ชาน และ คริส แพร์ เลือกจะเอาดรามาเป็นศูนย์กลางการเล่าเรื่อง ดูหนังออนไลน์

 

รีวิวหนังCODE 8ล่าคนโคตรพลัง

 

รีวิวหนังCODE 8ล่าคนโคตรพลัง เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ

 

ในโลกที่ประชากร 4% เกิดมาพร้อมความสามารถพิเศษเหนือธรรมชาติ แต่ใช่ว่าพวกเขาจะกลายเป็นมหาเศรษฐรหรือซุปเปอร์ฮีโร่ พวกเขากลับถูกสังคมกดขี่ต้องให้ใช้ชีวิตอยู่อย่างอดอยาก เรื่องเริ่มขึ้นเมื่อชายคนหนึ่ง (ร็อบบี้ อาเมลล์, The Flash) ต้องดิ้นรนหาเงินมาเพื่อจ่ายค่ารักษาแม่ของเขา เขาทำงานเป็นกรรมกรจนกระทั่งเขาเข้าร่วม กับ แก๊งโจร (สตีเฟ่น อาเมลล์, Arrow) ที่สอนให้เขาใช้พลังของตัวเองเพื่อก่ออาชญากรรม ซุงกัง (แฟรนไชส์ The Fast and the Furious) ที่ร่วมแสดงในหนังสั้นต้นฉบับ กลับมารับบทเดิมคือตำรวจที่คอยไล่ล่าโจรที่ใช้พลังแหกกฎหมายอย่างไม่ลดละ

เมื่อมนุษย์ผู้มีพลังพิเศษถูกปฏิบัติเหมือนพลเมืองชั้น 2 ผู้คนต่างตกงานเพราะไม่มีใครกล้าจ้างอันเป็นผลมาจากความกลัวในพลังของพวกเขา และ มันทำให้ คอนเนอร์ รีด (ร็อบบี เอเมล) หนุ่มพลังไฟฟ้าต้องเผชิญ กับ ภาวะหลังชนฝา เมื่อแม่ (คารี แมตเชต)ต้องเผชิญโรคมะเร็งสมองที่ทำให้เธอควบคุมพลังแช่แข็งตัวเองไม่ได้ ในเมื่องานสุจริตหายากยิ่งกว่าทอง คอนเนอร์ ดูหนังฟรี

 

 

จึงหันหลังให้กฎหมายร่วมงานอาชญากรรมทุกรูปแบบ กับ แกร์เรต (สตีเฟน เอเมล)หนุ่มสายแบดพลังเคลื่อนย้ายโลหะ เพื่อทำงานสำคัญให้ กับ มาร์คัส ซัดคลิฟ (เกรก บรีค) พ่อค้ายาไซซ์ ยาเสพย์ติดจากไขสันหลังมนุษย์พลังพิเศษที่กำลังระบาดอย่างหนัก จนเจ้าหน้าที่ปาร์ค (ซุง คัง) หน่วย ปปส.ตงฉินต้องออกกวาดล้างอย่างหนักแต่เมื่อหน่วยงานเร่งทำผลงานจนคุณธรรมในอาชีพเริ่มหมิ่นเหม่ ชะตากรรมของคอนเนอร์ และ อาการป่วยของแม่เลยต้องให้โชคชะตาตัดสิน

พลังพิเศษในเรื่องที่เห็นก็อย่างพลังไฟฟ้า พลังจิต พลังความร้อน พลังน้ำแข็ง เป็นต้น ซึ่งตัวพระเอกที่ชื่อว่า คอนเนอร์ รีด เป็นผู้มีพลังไฟฟ้า แล้วสิ่งที่คอนเนอร์ทำตอนเริ่มเรื่องคือการใช้พลังพิเศษไป กับการเป็นช่างไฟค่ะ ฮ่าๆ ซึ่งตัวพระเอกก็ไม่ใช่คนเดียวในเรื่องที่มีพลังไฟฟ้านะคะ แต่ในเรื่องเนี่ยมันมีการแบ่งระดับของพลังอยู่ซึ่งแน่นอนว่าคอนเนอร์ของเราอยู่ในระดับสูงสุด พวกอาชญากรในเรื่องจึงต้องการให้คอนเนอร์มาช่วยในแผนการต่าง ๆ เพื่อแลก กับ เงิน และ ข้อตกลงบางอย่าง ซึ่งเขาก็ตอบตกลงเพราะต้องการหาทางรักษาแม่ที่กำลังป่วย ดูหนังออนไลน์

 

 

ความรู้สึกหลังดูหนังCODE 8ล่าคนโคตรพลัง

 

เราเพิ่งมารู้หลังจากดูหนังเรื่อง Code 8 จบไปแล้ว ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เคยเป็นที่พูดถึงมาก่อน ในฐานะหนังสั้นยอดเยี่ยม แต่พอเอาพล๊อตมาขยายให้ยาวขึ้น กลับพบว่า มันทำให้ Code 8 กลายเป็นหนังเป็ด ที่อะไรก็ดี อะไรก็ติไม่ได้ แต่จริงๆ แล้ว มันไปไม่สุดสักทาง ไม่ว่าจะเป็นฉากแอคชั่น ซีนอารมณ์ หรือรวมไปถึงเทคนิคพิเศษที่ใช้ในการถ่ายทำ

อย่างไรก็ตาม พล๊อตนั้นถือได้ว่าเป็นจุดที่ดีที่สุดของเรื่อง แต่การซ่อนปมยังไม่แนบเนียนสักเท่าไหร่ ตั้งแต่ตอนที่สาวน้อยผิวสีไออยู่ในคอ เหมือนเธอกำลังเป็นโรคอะไรสักอย่างตั้งแต่ต้นเรื่อง ก็พอจะเดาออกแล้วล่ะ ว่าถ้าเธอไม่เป็นโรคร้ายอะไรสักอย่าง เธอก็น่าจะได้รับโรคมาจากใครอีกที ซึ่งพอเฉลยปมก่อนจบเรื่อง ว่าจริงๆ แล้วสาวน้อยคนนี้ไม่ได้มีพลังรักษา

แต่เธอแลกเปลี่ยนความบาดเจ็บของผู้อื่นมาไว้ที่ตัวเธอแทนต่างหาก ซึ่งมันนำไปสู่ฉากบีบอารมณ์ ที่พระเอกของเราต้องบังคับเธอให้ไปรักษาโรคมะเร็งที่แม่ของเขากำลังทุกข์ทรมานอยู่ กับ มัน ทั้งๆ ที่สาวน้อยรู้ชะตากรรมของเธอดี ว่าเธอต้องตายแน่ๆ แต่สุดท้าย พระเอกของเราก็คิดได้ และ ไม่ใจร้ายจนเกินไป ที่จะปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องตาย ดูหนังฟรี

 

 

นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างหุ่นยนต์ตำรวจที่ใช้ในประเทศดูไบ และ โดรนตรวจการ ที่เริ่มใช้กันบ้างแล้วในหลายๆ ประเทศ ก็ทำให้เรื่องราวของ Code 8 ดูมีสีสันมากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องมนุษย์ที่มีพลังวิเศษ อาจจะฟังดูเลื่อนลอยอยู่นิดๆ น่าจะมีเหตุการณ์ หรือเหตุผลสนับสนุนของที่มาของพลังเหล่านั้นมานำเสนอบ้าง จึงจะทำให้ Code 8 พาษ์ไทย กลายเป็นภาพยนตร์ที่สมบูรณ์มากขึ้น

โดยเวอร์ชันหนังใหญ่ของ CODE 8 ก็เหมือนเป็นการขยายความหมายของชื่อเรื่องที่หมายถึงอาชญากรรมโดยผู้มีพลังพิเศษ แน่นอนล่ะว่ามันคือการเปรียบเปรย (Allergory) กับ การเลือกปฏิบัติ กับ ผู้อพยพหรือพลเมืองชั้น 2 ในอเมริกา และสามารถวิพากษ์เรื่องชนชั้นได้เห็นภาพแถมไปไกลถึงขั้นเล่าฉาก Prologue หรือ อารัมภบท

โดยเอาฟุตเทจข่าวมาใส่เสียงบรรยาย และ มีถ่ายเป็นเชิงสารคดีว่าเมืองลินด์คอนที่เป็นฉากหลังถูกสร้างโดยกลุ่มผู้มีพลังพิเศษก่อนถูกกีดกันจนต้องมีชีวิตยากลำบาก และ ทีละน้อยที่คราวนี้บทหนังของ เจฟฟ์ ชาน และ คริส แพร์ เลือกจะเอาดรามาเป็นศูนย์กลางการเล่าเรื่อง รีวิวหนังออรไลน์

 

 

โดยตัดปะเปลี่ยนทรงเพิ่มความเมโลดราม่าด้วยการสร้างให้ คอนเนอร์ รีด กลายเป็นลูกกตัญญูที่ต้องหาเงินมารักษาแม่ เดินคู่ขนานไป กับ โลกอาชญากรรมที่ก็ยิ่งเปรียบเปรย กับโลกความจริงไปอี๊ก ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าทั้งคู่มีความครีเอตในการคิดเรื่องราว และ สร้างโลกของหนังขึ้นมาจนมันแตะ ๆ จะเป็นไซไฟการเมืองที่มีอ้างอิงเด่นชัดมากคือ Distirct 9 ของ นีล บลอมแคมป์ แต่จุดที่มันไปไม่ถึงคือการที่บทหนังไม่เลือกตัดอะไรออกเสียบ้างจนความรุงรังของเรื่องเล่าที่มีทั้งแม่ป่วย องค์กรอาชญากรรมของเหล่าผู้มีพลังพิเศษ

ไปจนถึงเรื่องราวความลับของครอบครัวเจ้าหน้าที่ปาร์ค เป็นเหมือนภาระที่หนังต้องหาทางลงให้ได้จนอารมณ์ดราม่าที่หนังพยายามปูให้เราลุ้นตามพระเอกไม่ได้ทำงานเท่าที่ควร มิหนำซ้ำสิ่งที่บทหนังละเลยอย่างไม่น่าให้อภัยคือพัฒนาการของตัวละครนี่แหละที่พอดูจนจบแล้วมันคงที่ตลอดซึ่งก็ถือเป็นปัญหาสามัญของการดัดแปลงหนังสั้นไอเดียล้ำ ๆ มาเป็นหนังยาวหลายเรื่อง กรณีศึกษาชัดเจนที่สุดก็หนีไม่พ้นหนังอย่าง Skyline  นั่นแหละครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *