รีวิวหนังBleeding Steel โคตรใหญ่ฟัดเหล็กHD

 

 

มาแล้วคับกลับมาแล้ว กลับมาพบกับผม และ การรีวิวหนังสุดมัน วันนี้ผมจะมารีวิวหนังเรื่อง Bleeding Steel โคตรใหญ่ฟัดเหล็ก ตั้งแต่เด็กจนโตจำได้เลยว่าทุกตรุษจีนจะมีหนังของเฉินหลงเข้าฉายทุกปี แต่ระยะหลังพอหนังฮ่องกงเสื่อมความนิยม เราเลยแทบไม่ได้เห็นหนังเฉินหลงที่มาพร้อมกับสโลแกนโปรแกรมยักษ์ต้อนรับตรุษจีนกันแล้ว แต่ถึงอย่างไรปีนี้เราก็ได้ดูหนังเฉินหลงที่ได้อารมณ์แบบหนังไซไฟแอ็คชั่นผสมกังฟูเข้ากับเรื่องราวคล้ายๆคอมิคค่ายมาร์เวลยังไงอย่างงั้นอย่าง Bleeding Steel ที่ถือเป็นการประเดิมนำเข้าหนังจีนของ ไฟว์สตาร์ ค่ายหนังไทยที่ช่วงหลังเริ่มมาจับธุรกิจนำเข้าหนังต่างประเทศบ้างแล้ว

เราอาจจะต้องยอมรับความจริงที่ว่านักแสดงหนังแอ็คชั่นอย่างเฉิน หลงในวัย 63 ปี จะให้ลุกขึ้นมาเตะต่อยแบบสมัยเขายังอายุ 20 นั้นคงจะเป็นเรื่องที่ฝืนธรรมชาติเป็นอย่างมาก สิ่งที่ปรากฏอยู่ในหนังอย่าง Bleeding Steel ผลงานเรื่องล่าสุดของเขานั้นจึงทำให้เราเห็นว่า อายุที่มากขึ้นทำให้เขาต้องเล่นฉากต่อสู้น้อยลง และ หลายครั้งคิวบู๊ก็ต้องอาศัยการตัดต่อเป็นตัวช่วยอย่างมาก แต่ปัญหาของ Bleeding Steel ไม่ได้อยู่ที่ฉากแอ็คชั่น (จำนวนน้อยของเฉิน หลง) หากแต่เป็นบทภาพยนตร์ที่ “เชย” ราวกับหนังเมื่อ 20 ปีก่อน

กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ด้านลบเป็นอย่างมากกับภาพยนตร์หนัง ไซไฟ ที่พยายามสร้างเป็นฟอมยักษ์โดยใช้ยอดดาราแอคชั่นของฮ่องกงอย่างแจ็คกี้ ชาน หรือเฉินหลง ที่มีผลงานออกมาอย่างไม่ขาดสายในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หลังจากห่างหายวงการไปซักระยะ และ ล่าสุดมามีผลงานภาพยนตร์ล้ำยุคที่ผลิตร่วมกับชาวออสเตรเลีย และ จีนในเรื่อง โคตรใหญ่ฟัดเหล็ก ภาพยนตร์แนวไซไฟที่เราจะได้เห็นเฉินหลง แสดงเป็น Lin Dong เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสหประชาชาติ ที่ได้รับหน้าที่เป็นฝ่ายคุ้มครองพยาน และ ถูกส่งไปคุ้มกัน Dr. James นักวิทยศาสตร์ผู้คิดค้นวิทยาการ bioroid เทคโนโลยีที่จะสร้างสุดยอดทหารขึ้นมา ดูหนังใหม่

 

รีวิวหนังBleeding Steel โคตรใหญ่ฟัดเหล็กHD

 

 

รีวิวหนังBleeding Steel โคตรใหญ่ฟัดเหล็กHD เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ

 

เนื้อเรื่องของ Bleeding Steel ก็จะเหมือนเอาพลอตหนังไซไฟฮอลลีวูดมาผสมกับหนังดราม่าครอบครัว โดยเฉินหลงรับบทเจ้าหน้าที่ ลินตง ที่ต้องใช้ชีวิตในซิตนีย์เพื่อปกป้อง แนนซี่ หรือ ซีซี ลูกสาวของเขาที่ฟื้นจากความตายหลังได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายหัวใจจักรกลจากฝีมือของนักวิทยาศาสตร์แต่เขาจำเป็นต้องปกปิดตัวตนเพื่อให้รอดพ้นจาก อังเดร

อดีตหนูทดลองที่กลายเป็นปีศาจหัวใจจักรกลสังหารที่ต้องการจับตัวแนนซี หวังใช้เลือดรักษาร่างกาย และ แก้แค้น ลินตง ที่ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตอยู่แต่ในห้องปลอดเชื้อหลังการปะทะกันเมื่อ 30 ปีก่อน โดยมี ลีสัน หัวขโมยหนุ่มที่มุ่งตามหาสมบัติของครอบครัวมาร่วมในเกมไล่ล่าครั้งนี้ด้วย

หนังว่าด้วยเรื่องราวของ ลินดง (เฉิน หลง) เจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษของ UNSS มีภารกิจสำคัญในการปกป้องพยานคนสำคัญจนทำให้เขาต้องเลือกหน้าที่การงาน ก่อนลูกสาวที่นอนป่วยอาการสาหัสไว้ในโรงพยาบาล ภารกิจนครั้งน้นของลินดง เขาเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดเนื่องจาก วายร้ายอย่างไซบอร์ก อังเดร ต้องการของบางอย่างจากตัวพยาน หลายปีต่อมา ลินดงย้ายไปอยู่ที่ออสเตรเลียเพื่อทำการดูแลอารักกขาเด็กสาวที่ชื่อว่า แนนซี่ (นาน่า อู๋หยาง) ซึ่งลินดง ไม่เคยเปิดเผยความจริงว่าเขาเป็นพ่อแท้ๆของเธอ เพราะกลัวว่าแนนซี่จะได้รับอันตราย ดูหนังฟรี

 

รีวิวหนังBleeding Steel โคตรใหญ่ฟัดเหล็กHD

 

หลังจากที่เกิดความผิดพลาดกับตัวทดลองของเขา ทำให้มันกลายมาเป็นดั่งหนังอสุรกาย Frankenstein ที่ตัวทดลองชื่อ Andre (รับบทโดย Callan Mulvey) เกิดกลายพันธ์จากรังสี ในขณะที่ Lin เจ้าหน้าที่สาวที่อยู่ระหว่างทางดูใจลูกสาวเธอ Xixi ที่กำลังจะตายจากภาวะหัวใจล้มเหลวในขณะ Andre โผล่ออกมาประกอบร่างอย่างกับ Darth Vader นำกองทัพหุนยนต์ bioroid ที่เหมือนกับStormtroopersในภาพยนตร์ Star war เพียงแต่มันเป็นชุดสีดำ พวกมันออกมาอาราวาดอยู่ข้างนอกแล้วก็หายไปนานนับ 13 ปี

จนกระทั่งนักเขียนชาวออสเตรเลีย Rick Rodgers รับบทโดย (Damien Garvey) ได้ตีพิมพ์หนังสือมนุษย์กลายพันธ์ที่มีพลังกายมหาศาลวางจำหน่าย จนดลใจให้สองสาวย่องเข้าไปขโมยข้อมูลในห้องของเขา ได้แก่ Tess Haubrich และ ดาราไต้หวันอีกคนที่แต่งตัวยังกับ Drag ในเวอร์ชั่นของ Uma Thurman แต่กลับมาเจอเข้ากับ Lin ทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างต้องสู้กันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และ ดูเหมือนกลายเป็นฉากต่อสู้สไตล์ภาพยนตร์อมยักษ์อย่าง Mission Impossible ที่จะมีฉากต่อสู้สุดโลดโพดไปมา

วิธีการเล่าเรื่องของ Bleeding Steel จัดได้ว่าเล่าเรื่องตามหนังในสมัยยุค 90 ที่แบนราบไร้มิติ ในทุกตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นตัวร้ายที่เหมือนหลุดมาจากหนังสือการ์ตูน บทพระเอกคุณพ่อผู้ผดุงคุณงามความดีและต้องการจะปกป้องลูกสาว แฟนหนุ่มของลูกสาวที่มากมุกตลก และ อารมณ์ขัน เหมือนตัวโจ๊กประจำเรื่อง ปัญหาก็คือผู้กำกับอย่างลีโอ จาง  กลับเล่าสูตรสำเร็จทั้งหมดนี้ออกมาได้ “ไม่สนุก” และ “จืดชืด” กว่าที่หนังควรจะเป็น ดูหนังใหม่

 

 

 

ความรู้สึกหลังดูหนัง Bleeding Steel โคตรใหญ่ฟัดเหล็ก

 

เรารู้สึกว่าหนังมันไปไม่สุดซักทางอ่ะ จะตลกก็ไม่ตลก จะดราม่าก็ไปไม่ถึงขั้น อีกทั้งซีนบู๊มันก็เดิมๆ สไตล์เดิมๆของเฉินหลงที่ดูจากเรื่องไหนก็ได้ เรียกได้ว่ามันซ้ำ มันเก่าไปแล้ว มันไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย เอาง่ายๆคือเราไม่ว้าวกับซีนแอ็กชันของเฮียเฉินหลงแล้วอ่ะ

หนังมันมาพร้อมโมเม้นแบบ “ทำแบบนี้ทำไมวะ?” หรือ “ทำไมไม่ทำแบบนี้” มันดูไม่ make sense เลยอ่ะ ขอยกตัวอย่างนะ “ตัวร้ายชุดกันกระสุน ยิงไม่เข้า พี่เฉินขับรถชนตัวร้ายติดหน้ารถไปบี้กับถังน้ำมัน แต่ก็ไม่ตาย พี่เฉินแกเลยรัวกระสุนใส่ตัวร้ายตรงลำตัว” ซึ่งแน่นอนสิว่ามันไม่เข้าหรอก เขายิงกันมาเป็นสิบนาทีแล้วไม่เป็นไรเลย

ประเด็นเลยคือ แล้วทำไมพี่ไม่ยิงหัวละ มันหัวโล่งๆไม่มีอะไรป้องกันเลย ทำไมอ่ะต่อทีนี้พอยิงไม่เข้าพี่แกมองไปข้างหลังเห็นถังน้ำมัน พี่แกยิงถังน้ำมันขณะที่ตัวแกอยู่ในรถที่จอดบี้อยู่กับถังน้ำมันยัง แล้วก็ตู้มมม !!” what? อะไรดลใจให้เขียนฉากนี้ขึ้นมา ไม่มีใครเอ๊ะใจในความสมเหตุสมผลเลยหรอ

หนังมันไม่เฉลยอะไรเลยในหลายจุดสำคัญในหนังอ่ะ เช่นต่อจากข้อข้างบน พี่แกโดนแรงระเบิดตัวปลิวออกจากรถมาอย่างไกล ไม่ตาย ไม่มีอะไรหัก มีแต่แผลที่โดนยิงก่อนหน้า กับรอยขีดข่วนนิดๆหน่อย ทำไมเขาไม่เฉลยหละว่ารอดมาได้ไง มันมีเทคโนโลยีช่วยหรอ หรือยังไง? ดูหนังฟรี 

 

 

หนังมาพร้อมกับบทสรุปแบบง่อยๆ “พี่จะเอาอย่างงี้จริงหรอครับ” ตัวนั้นจำคนนี้ได้จากภาพนิมิตร(นี่หนังวิทยาศาสตร์) ส่วนตัวนี้จริงๆแล้วเป็นคนสำคัญ ส่วนตัวนั้นเครื่องบินตกระเบิดแต่ไม่ตายกลับมานั่งหล่อๆได้ เอ้า ?? อยากจะให้ใครไปใครมา จะให้ใครเป็นอะไรก็เอาง่ายๆงี้เลย แต่หนังมันก็มีสิ่งดีนะไม่ใช่ไม่มี นั่นก็คือน้องนางเอก น่ารักมาก

เมื่อระหว่างทางของหนังไม่ค่อยสนุก มิหนำซ้ำการคาดเดา “ตอนจบ” ของหนังเรื่องนี้ ก็ไม่ได้มีอะไรยากเย็นเหนือการคาดเดา เพราะทุกอย่างไม่มีอะไรเดินออกจาก “สูตร” เลยสักนิดเดียว ทำให้ความยาว 2 ชั่วโมงของหนังเรื่องนี้ดู “ยาวนาน” กว่าที่คิด

ด้วยส่วนผสมของความไม่ลงตัวของทุกอนูในภาพยนตร์ ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ยอดแย่เป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าเฉินหลง เข้ามามีส่วนร่วมในหายนะนี้ได้ยังไง ลำพังตัวเฉินหลงนั้นไม่เท่าไหร่ แต่สำหรับบท และ การถ่ายทำที่ดูเหมือนจะไม่ดีไปเสียหมด พาลให้ทุกอย่างดูแย่ไปหมด ตัวละครแต่ละตัวแข็งทื่อยังกับหลุดมาจากในหนังสือการ์ตูน ด้วยกระแสวิพากษ์วิจารณ์เชิงลบขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงยอดขาย ก็น่าจะพอรู้กันอยู่ว่ามันจะรุ่ง หรือดิ่งลงเหวกันแน่ ก็น่าดีใจอยู่ที่เฉียเฉินหลงได้กลับมาสู่จอภาพยนตร์ แต่ถ้าให้แนะนำดูภาพยนตร์เรื่องนี้ละก็ ผมจะบอกต่อรุ่นลูก และ รุ่นหลานว่าให้ข้ามหนังเรื่องนี้ไปเลยดีกว่า อย่าเสียเวลาไปดู ผมพูดจริง ๆ นะ  ดูรีวิวหนังสุดมันได้ที่นี่

 

 

ท้ายสุดแล้ว Bleeding Steel ก็ยังถือเป็นความบันเทิงที่เหมาะกับคอหนังที่อยากผ่อนคลายสมองไม่ต้องการคิดอะไรมาก ไม่สนเหตุผลในการดำเนินเรื่อง และ ไม่สนความสมจริงของเอฟเฟกต์ซีจีใดๆ รวมถึงแฟนของเฮียเฉินหลงที่เชื่อว่าแค่ได้เห็นหน้าก็คงหายคิดถึง และ ทางไฟว์สตาร์ยังเพิ่มความฮาด้วยเสียงพากย์พันธมิตรที่คราวนี้นอกบทกันแบบทั้งฉากแต่ฮาใจขาดดิ้นจริงๆ

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *