รีวิวซีรีย์ My Name

รีวิวซีรีย์ My Name

หลังจากที่ผมอดใจรอ ดูหนังออนไลน์ ผลงานใหม่ของHan So-hee สาวสวยที่เคยเป็นมาแล้วทั้งองค์มเหสี เมียน้อย หญิงสาวผู้คลั่งรัก แต่วันนี้ เธอจะพลิกบทบาทอีกครั้ง ด้วยการเป็นลูกสาวที่คั่งแค้นสืบหาคนที่ฆ่าพ่อ สวมรอยเป็นมันทั้งสองด้าน ทั้งตำรวจและนักเลง กับบทที่ไม่ค่อยได้แต่งหน้า ในซีรีส์ชื่อ My Name ชื่อไทยไม่มี เรียกทับศัพท์ไปว่า มาย เนม เลยก็แล้วกัน

ผลงานของผู้กำกับฝีมือเก่งที่ชื่อว่า คิมจินมิน ที่เคยสร้าง Extracurricular, Lawless Lawyer และ Marriage Contract บวกกับได้คนเขียนบทอย่าง คิมบาดา ที่เคยเขียนบทซีรีส์ Hero ส่วนเรื่องนี้มีฉายแบบสตรีมมิ่งทาง Netflix แบบขึ้นพร้อมกันรวดเดียวทั้ง 8 ตอน

หากท่านผู้ชมที่เคยดูหนังบู้ของฮ่องกงที่บรรดาแก๊งมาเฟียต่าง ๆ ที่ต่อสู้กันแบบมีดและใช้กำปั้น แถมไล่ฟันไล่แทงกันฉึบฉับ เลือดสาด สะบักสะบอม คุณจะได้เห็นสิ่งนั้นบน My Name ซีรีส์แนวแอ็กชัน-นัวร์เรื่องนี้ เพราะตัวเอกที่สะบักสะบอมชนิดที่เจ็บเป็นแต่ฮึบไว้ ทนทายาดและกัดฟันสู้กับฝั่งตรงข้ามด้วยตัวคนเดียว ลุยเดี่ยวไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมเรื่องนี้ เป็นผู้หญิงร่างบางหน้าตาสะสวย ที่ชื่อว่า ‘ยุนจีอู’

My Name เต็มเรื่อง โดยเริ่มเรื่องหนังจะพูดถึงเรื่องราว ความสัมพันธ์ของ ยุนดงฮุน ผู้เป็นพ่อกับลูกสาว ยุนจีอู ดูเหมือนจะไม่ราบรื่นนัก แต่ความห่างเหินก็ไม่เคยทำให้ความรักของสองพ่อลูกต้องลบเลือนไป ในวันที่พ่อถูกยิงตายหน้าประตู ลูกเจ็บปวดรวดร้าวจนเกิดความมุ่งมั่นต้องการแก้แค้น

พยายามขอความช่วยเหลือจากตำรวจ แต่ก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือ เมื่อมองไม่เห็นว่าทางการจะช่วยอะไรเธอได้ บอกกับเบาะแสที่บอกว่าคนฆ่าพ่อเธอนั้นเป็นตำรวจ งานนี้เธอคงต้องสืบและล้างแค้นแทนพ่อด้วยตนเอง และเธอเลือกจะเป็นตำรวจ

ด้วยความช่วยเหลือของเจ้าพ่ออย่าง ชเวมูจิน เธอจึงเข้าไปทำงานค้ายาอยู่ในแก๊งดงชอน และหลังห้าปีผ่านพ้น จีอูเปลี่ยนชื่อตนเองแล้วเข้าไปอยู่ในแผนกยาเสพติด เธอได้เป็นคู่หูร่วมกับนักสืบจอนพิลโดเธอกลายเป็นสายสืบคนใหม่ทั้งที่ทำงานเป็นตำรวจและเป็นคนของแก๊งค้ายาไปพร้อมกัน ทุกสิ่งที่เธอทำไปเพื่อสืบหาตัวฆาตกรและล้างแค้นให้พ่อนั่นเอง ไปลุ้นกันได้ใน ดูหนังฟรี

การพลิกบทบาทของฮันโซฮีในครั้งนี้ มีอะไรที่น่าสนใจหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การได้เห็นเธอในบทดุๆ กับบทที่มีทั้งเรื่องการสืบคดีของตำรวจ การเอาตัวรอดของนางเอกที่ต้องปิดบังตัวตน และการห้ำหั่นกันของพวกนักเลงแก๊งค้ายาเสพติด เสริมทัพด้วยนักแสดงที่ไม่ค่อยได้ผ่านตาสักเท่าไรนัก มีฉากต่อสู้ที่มองเห็นได้ชัดว่าเธอฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี รวมทั้งยังได้ยินว่าเธอทำน้ำหนักขึ้นมาอีก 10 กิโลกรัม ทำให้ร่างดูแน่นขึ้นอีกด้วย สามารถไปชมได้ที่ รีวิวหนังแอ๊คชั่นเอเชีย

ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว สำหรับซีรีส์เกาหลีที่มีเพียง 6-8 ตอน ที่มักจะทำให้เราต้องดูกันแบบมาราธอน ไม่อาจจะหยุดพักหายใจหายคอกัน เพราะยิ่งจำนวนตอนน้อย การเดินเรื่องก็ยิ่งกระชับฉับไว ปิดท้ายแต่ละตอนด้วยช็อตที่ชวนให้ดูต่อ หลายคนจึงพบว่า เมื่อได้เปิดมาดู มาย เนม เรื่องนี้ พวกเขาไม่สามารถหยุดดูได้ ถึงขั้นต้องอดหลับอดนอนเพื่อจะติดตามไปให้ถึงตอนจบกันเลยทีเดียว

ดูเหมือนจะคุ้นๆกับหนังที่ ตัวเอกที่ต้องแฝงตัวหรือแทรกซึมในองค์กร หรือทำตัวเองต้องปิดบังตัวตน เป็นคนสองหน้าที่เสี่ยงจะถูกเปิดเผยตัวตน ยังคงเป็นพล็อตที่ชวนติดตามได้ตลอด เพราะผู้คนคงพยายามเอาใจช่วยตัวเอกให้รอดพ้นไปตลอดทาง กับอีกส่วนก็คือลุ้นว่า ความลับของตัวเอกจะถูกเปิดเผยวันใดและอย่างไร

ส่วนในซีรีส์เรื่อง My Name พากย์ไทย ตัวเอกของเรื่องเธอเองต้องปกปิดชื่อจริงและความจริงว่าเธอคือใคร เข้ามาอยู่ในองค์กรตำรวจด้วยจุดประสงค์ใด เธอมีสองตัวตน หนึ่งเป็นตำรวจตรวจจับการค้ายาเสพติด อีกส่วน เธอทำงานอยู่กับองค์กรค้ายารายใหญ่ ทั้งเธอยังจำเป็นต้องอยู่ทั้งสองที่เพื่อสืบหาฆาตกรที่ฆ่าพ่อของเธอ เบาะแสแต่ละอย่างทำให้เธอเข้าใกล้ตัวฆาตกรมากขึ้น แต่ขณะเดียวก็ความเสี่ยงจะถูกเปิดเผยตัวตนก็ยิ่งมากขึ้นเช่นกัน ชมเพิ่มได้ที่ รีวิวหนังแอ๊คชั่นเอเชียน่าดู

Han So-hee รับบทเป็น Yoon Ji-woo / Oh Hye-jin สมาชิกของ Dongcheon ที่แทรกซึมเข้าไปในกองกำลังตำรวจในฐานะ Oh Hye-jin เพื่อค้นหาการแก้แค้นสำหรับการฆาตกรรมของพ่อของเธอ

Ahn Bo-hyun รับบทเป็น Jeon Pil-do นักสืบหน่วยปราบปรามยาเสพติดของสำนักงานตำรวจนครบาลอินชา ซึ่งกลายมาเป็นคู่หูของฮเยจินหลังจากที่เธอเข้าร่วมหน่วย ตอนแรกเขาไม่ชอบจีวูเพราะเธอทำลายการผ่าตัดต่อยที่เขาวางแผนไว้เป็นเวลา 6 เดือน

Park Hee-soon รับบทเป็น Choi Mu-jin เจ้านายของ Dongcheon ซึ่งเป็นวงยาที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี เขาเชื่อใจ Ji-woo เพียงเพราะพลังแห่งความสิ้นหวังของเธอ เขาเป็นเพื่อนสนิทกับพ่อของจีวู

Kim Sang-ho รับบทเป็น Cha Gi-ho หัวหน้าหน่วยปราบปรามยาเสพติดของสำนักงานตำรวจนครบาลอินชา ผู้ซึ่งสาบานว่าจะกำจัดดงชอนก่อนที่เขาจะเกษียณอายุ

Lee Hak-joo รับบทเป็น Jung Tae-ju สมาชิกของ Dongcheon เขาเป็นลูกน้องที่มูจินไว้ใจมากที่สุด

Chang Ryul [ ko ] รับบท Do Gang-jae อดีตสมาชิกของ Dongcheon เขาสาบานว่าจะแก้แค้นองค์กรหลังจากถูกไล่ออกจากโรงเรียนเพราะพยายามจะข่มขืน Jiwoo เมื่อเขาแพ้เธอในการแข่งขัน

Yoon Kyung-ho รับบท Yoon Dong-hoon พ่อของ Ji-woo และเพื่อนสนิทของ Mu-jin ซึ่งการฆาตกรรมเริ่มต้นการเดินทางเพื่อแก้แค้นของ Ji-woo

Baek Joo-hee รับบทเป็น Kang Soo-yeon

งานนี้เราจะได้ดูหน้าสดของนางเอก ในทุกฉาก ฮันโซฮี แทบจะไม่แต่งหน้า เรามักจะมองเห็นเส้นเลือดฝอยบนใบหน้าของเธอได้ชัดเจน หลายฉาก เธอจะมีแต่เมกอัปของใบหน้าที่เป็นแผล เปื้อนเลือด และสะบักสะบอม เป็นซีรีส์ My Name ที่เราได้เห็นซีนพะบู๊ของเธอบ่อยครั้งมาก ทำให้มองเห็นว่า เธอน่าจะทำการบ้าน เรียนการต่อสู้และฝีกซ้อมมามากพอสมควร ทั้งยังเพิ่มน้ำหนักตัวเองเพื่อให้ดูบึกบึนมีเนื้อมีหนังเพื่อให้เหมาะกับบท มองเห็นเลยว่า เธอทุ่มสุดตัวจริงๆ

ในขณะที่บางฉากต้องเล่นกับอารมณ์ ไม่จะเป็นช่วงสะเทือนใจที่เห็นพ่อตายไปต่อหน้าต่อหน้า ช่วงที่สมองของเธอนึกภาพถึงวันที่พ่อลูกนั่งกันอยู่ริมชายหาด หรือแม้แต่ในวันที่บีบคั้นเมื่อได้รับรู้ความจริงที่ยากจะยอมรับมัน เธอไม่ได้ดีแต่ไปวันๆ อย่างแน่นอน ติดตาเพิ่มได้ที่ รีวิวหนังแอ๊คชั่นเอเชียน่าสนใจ

ผู้ชมเอง นอกจากจะได้ลุ้นสนุกไปกับตัวละครแล้ว ก็ยังได้สนุกกับการคาดเดาความจริงล่วงหน้าก่อนจะถึงเวลาเปิดเผย แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้หลายทาง อาจมีตัวเลือกโน่นนี่นั่นเข้ามา แรงจูงใจของหลายคนก็อาจมากพอให้คิดเช่นนั้น

และเชื่อว่าหลายคนอาจเดาได้ถูก เพราะมันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น สำหรับใครที่ยังสงสัยในตัวเองอยู่ว่าจะเปิดดูซีรีส์เรื่องนี้ในเน็ตฟลิกซ์ดีหรือไม่ ก็คงต้องลองเปิดใจตัวเองดู แล้วก็อาจจะพบตัวเองนั่งดูเรื่องนี้อย่างไม่วางตา จบตอนนี้ ต่อตอนใหม่ ไล่ไปจนกว่ามันจะจบเหมือนผมก็ได้นะ

ชื่อซีรีส์ My Name / Undercover / 마이 네임

ผู้กำกับ Kim Jin Min/คิมจินมิน (เจ้าของผลงานซีรีส์ Extracurricular, Lawless Lawyer และ Marriage Contract)

ผู้เขียนบท Kim Ba Da/คิมบาดา (เจ้าของผลงานซีรีส์ Hero)

นักแสดง Han So Hee/ฮันโซฮี, Park Hee Soon/พัคฮีซุน, Ahn Bo Hyun/อันโบฮยอน, Kim Sang Ho/คิมซางโฮ, Lee Hak Joo/อีฮักจู, Chang Ryul/ชางรยอล, Kim Su Ha/คิมซูฮา

แนว/ประเภท Drama, Crime, Action

จำนวนตอน 1 ซีซัน: 8 ตอน

ช่องทางรับชม Netflix

เริ่มออกอากาศ 15 ตุลาคม 2021

ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ Netflix